ถึงเวลาแล้วหรือยัง?”คาวานี่” สมควรออกสตาร์ทตัวจริงกับปีศาจแดง

ตั้งแต่ที่ กุนซือ หน้ายิ้ม โอเล่ กุนนาร์ โซลชา เข้ามารับตำแหน่งคุม ทัพผีแดงที่ โอลแทรฟฟอร์ด ตัวเขาได้ พยายาม ดันบรรดาเด็กดาวรุ่งให้ได้ลง สนามกันอย่างมากมาย และต่อเนื่อง แต่จาก ผลการแข่งขัน

ที่ผ่านมา เราจะเห็นได้อย่างชัดเจนเลยว่าพลพรรค ปีศาจแดง ขาด ความเด็ดขาด ในการจบสกอร์ อย่างชัดเจน หรือ พูดง่ายๆ ว่าแนวรุกของ พวกเขานั้น เป็นกองหน้า กึ่งปีกแทบจะทั้งนั้นพวกเขา พยายาม

จะดัน อองโธนี่ มากสิยาล ขึ้นมาเป็นเป็นกองหน้าตัวเป้า แต่เราก็เห็นกันอย่างชัดเจน ว่า ตัวเขานั้น ไม่เหมาะ อย่างยิ่งกับตำแหน่งนี้ มากสิยาล นั้น มี พรสวรรค์สูง ครองบอล ไปกับบอลได้ดี มีทักษะที่น่าทึ่ง

แต่สิ่งนึง ที่เขาไม่มีเลย คือความกระหายในการทำประตูเพื่อพาทีม ชนะการแข่งขัน ดังนั้น จากเกมที่ผ่านๆมา จะเห็นได้เลยว่า เวลาที่ แมนยู ทำเกมรุกขึ้นมาใส่คู่ต่อสู้ ทั้ง มากสิยาล และ แรชฟอร์ด ต่างพากัน

ถ่างออกไปอยู่ ริมเส้น ทั้งหมด จนสุดท้าย ต้องเป็น บรูโน่ ที่วิ่งเข้าไปในกรอบเขตโทษ แทน แต่การมาของคาวานี่นั้น ได้เพิ่มมิติแนวรุก และที่สำคัญ คือเขา สร้างอิมแพคให้กับทีม อย่างมาก

คาวานี่ ที่แม้จะอายุ เลข3 แล้ว แต่ความฟิตของร่างกายนั้น ไม่ต่างกับ คนที่อายุพึ่งจะ 20กลางๆเลยทีเดียว เขาวิ่งไปทั่ว คอยเชื่อมบอลกับเพื่อน และ พร้อมที่จะกระโจนเข้าไปในกรอบเขตโทษ ยามที่ทีมมี

โอกาสทำประตูอยู่เสมอ เขามีความกระหายที่จะเป็นผู้ชนะ และนั่น เองที่ส่งผลต่อผลงาน

การทำประตู ของแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ที่เพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน ในระบบ  4-2-3-1 ของโซลชาร์ แม้ว่า เขาจะไม่มีความเร็ว ความคล่องตัวเหมือน  มากสิยาล หรือแรชฟอร์ด แต่เขามีความ เฉียบขาด ในการทำ

ประตู ที่ชัดเจน กว่า2คนนั้น ซึ่งเป็นสิ่งที่จับต้องได้ และนำมาซึ่งชัยชนะของทีม

คงถึงเวลา แล้ว ที่ โซลชาร์ ต้องเลิกคิดถึงอนาคต และ ทำ”ปัจจุบัน” ให้ดีก่อน ดังนั้น คาวานี่ คือคำตอบที่ดีที่สุด สำหรับกองหน้า ตัวเป้าของพลพรรคปีศาจแดง ในเวลานี้

เกาะติดวงการลูกหนังไทยและต่างประเทศ

Line @kickoff ได้ที่นี่

เอดินสัน คาวานี่ ! ทุกอย่างที่ผ่านการพิสูจน์เรียบร้อย

เอดินสัน คาวานี่ ย้ายมาแมนฯยูไนเต็ดก่อนเส้นตายตลาดซื้อขายนักเตะซัมเมอร์ไม่กี่ชั่วโมง

สัญญา 1 ปีพ่วงด้วยอ็อปชั่นอีก 1 ปี ถือว่าสมเหตุสมผลกับนักเตะวัย 33 ย่าง 34 ปี

ข้อดีคือแมนฯยูไนเต็ดไม่ต้องจ่ายสักเพนนีเดียวให้กับปารีส แซงต์ แชร์กแมงเพื่อเป็นค่าตัวของ คาวานี่

แม้จะต้องควักค่าดำเนินการหรือเรียกว่าค่าน้ำร้อนน้ำชาให้กับ วอลเตอร์ กูกลีเอลโมเน่ เอเยนต์นักเตะซึ่งมีศักดิ์เป็นพี่ชายแท้ๆก็ตาม ยังไงก็ถือว่าคุ้ม

คาวานี่ เหมือนกับ เบล นั่นแหล่ะ พกเอาสภาพร่างกายไม่สมบูรณ์ติดมาด้วย หลังบาดเจ็บและแทบร้างสนามไม่ได้ลงเล่นให้เปแอสเชอย่างต่อเนื่อง

ครั้งสุดท้ายที่ลงต้องย้อนไปยัง 11 มีนาคมในเกมยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีกดวลกับโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ จากนั้นก็ไม่เคยสัมผัสเกมอีกเลย

อย่างไรก็ดีก่อนเซ็นกับปีศาจแดง คาวานี่ พยายามรักษาร่างกายเรียกความฟิตตลอด เมื่อถึงเวลาจะได้พร้อมอย่างเต็มที่ไม่ต้องมารื้อฟื้นกันใหม่

ช่วงแรกจึงยังไม่ได้รับความไว้วางใจจาก โอเล่ กุนนาร์ โซลชา ซึ่งอธิบายไว้ว่าต้องการให้ร่างกายลงตัว ไม่อย่างนั้นอาจเสี่ยงต่ออาการบาดเจ็บซ้ำได้อีก

กว่าที่ คาวานี่ จะประเดิมต้องรอถึง 24 ตุลาคม ลงมาเป็นตัวสำรองแทน แดน เจมส์ ในช่วงครึ่งชั่วโมงสุดท้ายเกมลีกเสมอเชลซีแบบโนสกอร์ ซึ่งยังไม่ได้แผลงฤทธิ์อะไรนัก

แต่สิ่งที่ คาวานี่ สร้างความประทับใจมากๆคือช่วงฝึกซ้อม เปิดเผยให้เห็นความเป็นมืออาชีพเต็มเปี่ยม

ใครที่ไม่เคยรู้จักตัวตนหรือสัมผัสมาก่อน อาจเตลิดคิดไปว่า คาวานี่ ย่อมเหมือนกับแข้งอเมริกาใต้ทั่วไป ฝีเท้าไม่เป็นที่สงสัย แต่อารมณ์ศิลปิน มักทำตามใจตัวเอง ไม่ค่อยเน้นการทำงานหนัก เพราะคิดว่ามีพรสวรรค์คอยสนับสนุน

ทว่าตรงกันข้ามอย่างสิ้นเชิง คาวานี่ มุ่งมั่นและทำงานอย่างหนัก ไม่เคยแสดงอาการเหยาะแหยะ รวมทั้งคิดว่าตัวเองเป็นซูเปอร์สตาร์เลย

นอกจากนั้นยังใส่ใจทุกอย่าง ตั้งแต่เรื่องใหญ่ไล่ไปจนถึงสิ่งที่ทุกคนคิดว่าเล็กน้อย

ขนาดอาหารที่สโมสรจัดให้ซึ่งถูกหลักตามโภชนาการอยู่แล้ว กินได้ตามสะดวก แต่เขายังพิถีพิถัน ไม่ใช่ก้มหน้าก้มตาสวาปาม

พฤติกรรมเหล่านี้อยู่ในสายตาของ โซลชา และทีมงานมาตลอด ส่วนเพื่อนร่วมทีมก็รู้สึกดีเช่นกัน เพราะ คาวานี่ ยังคอยสอนน้องๆทุกคน พวกแข้งตัวรุกจะได้รับคำแนะนำที่ดี

ประสบการณ์และความเป็นมืออาชีพ คือจุดแข็งช่วยให้ คาวานี่ ยืนหยัดในจุดนี้ได้ ซึ่งมันไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับนักเตะที่อายุมากขึ้นทุกวัน

โซลชา ชื่นชมในตัวแข้งอุรุกวัยหลายอย่าง แม้กระทั่งการวิ่งไล่บอลกดดันฝั่งตรงข้าม ก็ล้วนแต่โชว์ให้รู้เลยว่าแพสชั่นแค่ไหน ไม่ใช่ว่าย้ายมาเพื่อโกยเงินในช่วงท้ายของอาชีพ

ไม่ใช่เรื่องแปลกเลยหากสโมสรจะตัดสินใจใช้อ็อปชั่นขยายสัญญาอีก 1 ปี ทุกอย่างเหมาะสม ไม่มีเหตุผลอะไรต้องมาค้างคากังขาน่าสงสัย

ตอนย้ายมาเขาอาจดูเหมือนว่าเป็นดีล panic buy ซื้อเพราะไม่ได้ใครแล้ว ล้มเหลวในการเจรจากับ เจดอน ซานโช่ เลยต้องรีบหาใครสักคนมาเสริม ไม่อย่างนั้นบอร์ดโดนถล่ม

ทุกอย่างผ่านการพิสูจน์เรียบร้อย สำหรับ คาวานี่ ไม่มีอะไรให้เคลือบแคลงกันอีก ของฟรีมีคุณภาพนานๆทีถึงตกมายังแมนฯยูไนเต็ดกันบ้าง