น้อง “เป้” ขึ้นแท่น อนาคตของวงการฟุตบอล ที่จะมาแทนที่ โรนัลโด้ เมซซี่

ก่อน อื่นต้องยอมรับก่อนเลย ว่า ถ้านึกถึง ฟุตบอล ในรอบ เกือบ 20ปีที่ผ่านมา ไม่ว่าจะ เป็นใครก็ต้อง รู้จัก คริสเตียโน่ โรนัลโด้ และ ลีโอเนล เมซซี่ 2 โคตรแข้งที่เป็นปรากฎการณ์มาอย่าง ยาวนาน

ไม่ว่าย้าย ไปอยู่ทีมไหน ทั้งลีคเติบโตขึ้นเรื่อง ภาพลักษณ์ ธุรกิจฐาน คนดู แฟนๆ เพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน ทำให้ไม่ว่าใครก็อยากได้ พวกเขา2คนไปร่วมทีม แต่กาลเวลา ผ่านไป พวกเขาทั้ง 2เริ่มโรยราไปตามอายุ

แต่วงการฟุตบอล ก็ยังไม่ อาจหาตัวแทนที่จะ แทนที่พวกเขา ทั้งสองคนได้เลย คนที่ดูจะใกล้เคียงที่สุด น่าจะเป็น เนย์มา ถ้าไม่ติดเรื่องที่ซุปเปอร์สตาร์ชาวแซมบ้าขาดวินัยนอกสนาม

การเล่นที่ห่างไกลคำว่า”ทีม”ทำให้ไม่ประสบความสำเร็จสักเท่าไร แต่ถ้านับจากฝีเท้าล้วนๆ ป่านนี้คงจะมาแทน2คนนี้ไปนานแล้ว

ต่างกับ เอมบาปเป้ ที่ดูจะเต็มที่กับฟุตบอลตลอดทุกนัด ที่ลงแข่ง และ มีถ้วยรางวัลติดไม้ติดมือ การันตีความสำเร็จ มามากมาย

บรรดา กูรู หลายๆคนก็ออกมาชม กันอย่างหนาหู ถึงดาวรุ่งมากพรสวรรค์ คนนี้ อย่างมาก

โจ โคล “การเอาชนะตัวประกบ การเล่นกับเพื่อนร่วมทีม ความขยันตอนที่ไม่ได้ ครองบอล เขาสุดยอดในทุกแง่มุม ปัจจุบันนี้ เขาเป็น 1 ในตัวชูโรง ของวงการฟุตบอลไปแล้ว”

เจมี่ คาราเกอร์ “ผมไม่ได้พูดเล่นนะ เขาเคยเกือบได้ย้ายมา อยู่กับลิเวอร์พูล แล้วสมัยยังค้าแข้งให้กับ โมนาโก”

“ถ้าจะนับทีมในพรีเมียร์ลีค ที่เหมาะสมกับเขาในเวลา นี้ เห็นจะมีแค่ ลิเวอร์พูล และ แมนเชสเตอร์ซิตี้เท่านั้น”

มีรายงานจากทางฝรั่งเศสว่า ปารีส แซงต์-แชร์กแมง ได้ยื่นสัญญาใหม่ให้กับ คิลิยัน เอ็มบัปเป้หัวหอกมหากาฬเป็นเวลา4ปีนักเตะได้พิจารณาข้อเสนอดังกล่าวมาหลายเดือนแล้วแต่ยังไม่ตอบรับแต่อย่างใด

ซึ่งแข้งวัย 22 ปีกำลังถูกถามถึงเรื่องอนาคต กันอย่างต่อเนื่องเพราะตัวเขาเหลือสัญยาอยู่ถึงปี 2022 เท่านั้น

บรรดาทีมยักษ์ใหญ่ได้ เช่น แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แมนซิตี้ ลิเวอร์พูล และ รีลมาดริด ต่างอยากได้ตัวเขาไปร่วมทีมกันหมด

เชื่อได้เลยว่า การย้ายทีมของ เขาจะเป็นข่าวใหญ่ในวงการฟุตบอลอย่างแน่นอน

 

เกาะติดวงการลูกหนังไทยและต่างประเทศ

Line @kickoff69 ได้ที่นี่

วัดจากปัจจัยแวดล้อมต่างๆ ! เชื่อว่า เอ็มบั๊ปเป้ น่าจะตัดสินใจอยู่ต่อ

ถ้าฤดูร้อนนี้ผ่านไป โดยที่ยังไม่มีการขยายสัญญาฉบับใหม่ คิลิยัน เอ็มบั๊ปเป้ ออกไปอีก ปารีส แซงต์ แชร์กแมงย่อมเจอปัญหาหนักใจมากตามลำดับแน่นอน

แล้วหากปล่อยไว้จนถึงปฏิทินเปลี่ยนปีเป็น 2022 ความลำบากจะยากทวีคูณอย่างไม่ต้องสงสัย

เปแอสเชอาจจะสบายใจได้บ้างตรงที่ หลายสโมสรใหญ่ที่ตามจีบ เอ็มบั๊ปเป้ ย่อมประสบปัญหาการเงิน ซึ่งไม่ได้มีงบประมาณมากเหมือนเมื่อก่อน

เหตุผลนี้อาจโน้มน้าวให้นักเตะตัดสินใจอยู่ต่อ เพราะยังไงก็ได้ค่าจ้างมากกว่าของเก่าแน่นอน อีกทั้งไม่มีทีมไหนศักยภาพพอพร้อมจะมาสู่ขอ

เรอัล มาดริดซึ่งเป็นเต็งหนึ่งที่จะได้ตัว ก็ต้องเผชิญกับวิกฤตการเงินครั้งใหญ่ ต่อให้ผลประกอบการไม่ถึงขั้นกระเป๋าฉีกและหนี้สินไม่ได้พะรุงพะรังเหมือนบาร์เซโลน่า แต่ก็ต้องอยู่ในภาวะรัดเข็มขัดจนพุงกิ่ว

ฉะนั้นหากจะหอบเงินฟ่อนใหญ่มาซื้อจริงๆ คงต้องผ่องถ่ายขายผู้เล่นที่มีอยู่ออกไป ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องง่ายอยู่ดี

ไหนจะขนาดขุมกำลังที่ดูเล็กลงอีก ไม่ใหญ่โตพอที่จะปล่อยนักเตะเหมือนอย่างที่เคย ความฝันของ ซีเนดีน ซีดาน จึงเกิดขึ้นยากพอสมควร

ยกเว้นเคสนักเตะดึงดันจะย้ายและไม่ขยายสัญญา ปล่อยให้หมดลงเอง เป็นการบีบให้เปแอสเชต้องยอมรับสภาพขยับไปทางไหนก็ลำบาก

ในขณะที่ลิเวอร์พูลเองก็โยงกับ เอ็มบั๊ปเป้ อย่างต่อเนื่องเช่นกัน แต่อุปสรรคก็ไม่แตกต่างจากมาดริดเท่าไรนัก แล้วบอร์ดบริหารก็ไม่ได้นิยมซื้อแข้งซูเปอร์สตาร์ แม้จะรู้ว่านี่คือของจริงและ เจอร์เก้น คล็อปป์ เชื่อว่าเป็นจิ๊กซอว์ชิ้นสำคัญต่อยอดความสำเร็จ

พูดง่ายๆคือทั้งสองทีมที่พัวพันมาตลอด ไม่ได้อยู่ในสภาพที่พร้อมเลย อย่าลืมว่าหากคิดจะคว้าในซัมเมอร์นี้ ไม่ใช่ต้องทุ่มค่าตัวอย่างเดียว ไหนจะต้องเจียดมาจ่ายค่าเหนื่อยมหาศาลด้วย

เอ็มบั๊ปเป้ เป็นเด็กที่โตมาจากสถาบันครอบครัวแข็งแรง จึงผูกพันกับคนในบ้านอย่างยิ่ง การย้ายทีมย่อมกลั่นกรองด้วยความรอบคอบมากๆ

ยิ่งมาเกิดสถานการณ์ไม่ปกติไวรัสระบาดอย่างหนัก ความเสี่ยงของการเดินทาง เปลี่ยนแปลงที่อยู่ จึงไม่ใช่สิ่งที่สะดวกนัก

เมื่อเป็นอย่างนี้เปอร์เซนต์ที่นักเตะจะยืดสัญญาออกไปจึงมีสูง ตัวแปรหลักเลยอยู่ที่เปแอสเชว่าจะหาวิธีดึงดูดใจอย่างไร

หากไม่ย้ายในเที่ยวนี้ บางทีในเงื่อนไขสัญญาฉบับใหม่อาจเพิ่มรายละเอียดบางอย่างลงไป เพื่อเปิดทางสำหรับการย้ายในอนาคต

ว่ากันตามตรงอายุเพิ่ง 22 ปี ไม่จำเป็นต้องเร่งร้อนไปเลย เล่นในลีกเอิงโกยเงินและความสำเร็จอีกสัก 3 ปีค่อยขยับปรับเปลี่ยนยังทันเหลือเฟือ

ไม่แน่เหมือนกันความท้าทายใหม่ของเขา นอกจากได้เล่นร่วมกับ เนย์มาร์ เหมือนเดิมแล้ว ยังอาจมี ลิโอเนล เมสซี่ มาอีกคน

แค่คิดก็ให้รู้สึกตื่นเต้นแทนแล้ว

 

เกาะติดวงการลูกหนังไทยและต่างประเทศ

Line @kickoff69 ได้ที่นี่

เอดินสัน คาวานี่ ! ทุกอย่างที่ผ่านการพิสูจน์เรียบร้อย

เอดินสัน คาวานี่ ย้ายมาแมนฯยูไนเต็ดก่อนเส้นตายตลาดซื้อขายนักเตะซัมเมอร์ไม่กี่ชั่วโมง

สัญญา 1 ปีพ่วงด้วยอ็อปชั่นอีก 1 ปี ถือว่าสมเหตุสมผลกับนักเตะวัย 33 ย่าง 34 ปี

ข้อดีคือแมนฯยูไนเต็ดไม่ต้องจ่ายสักเพนนีเดียวให้กับปารีส แซงต์ แชร์กแมงเพื่อเป็นค่าตัวของ คาวานี่

แม้จะต้องควักค่าดำเนินการหรือเรียกว่าค่าน้ำร้อนน้ำชาให้กับ วอลเตอร์ กูกลีเอลโมเน่ เอเยนต์นักเตะซึ่งมีศักดิ์เป็นพี่ชายแท้ๆก็ตาม ยังไงก็ถือว่าคุ้ม

คาวานี่ เหมือนกับ เบล นั่นแหล่ะ พกเอาสภาพร่างกายไม่สมบูรณ์ติดมาด้วย หลังบาดเจ็บและแทบร้างสนามไม่ได้ลงเล่นให้เปแอสเชอย่างต่อเนื่อง

ครั้งสุดท้ายที่ลงต้องย้อนไปยัง 11 มีนาคมในเกมยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีกดวลกับโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ จากนั้นก็ไม่เคยสัมผัสเกมอีกเลย

อย่างไรก็ดีก่อนเซ็นกับปีศาจแดง คาวานี่ พยายามรักษาร่างกายเรียกความฟิตตลอด เมื่อถึงเวลาจะได้พร้อมอย่างเต็มที่ไม่ต้องมารื้อฟื้นกันใหม่

ช่วงแรกจึงยังไม่ได้รับความไว้วางใจจาก โอเล่ กุนนาร์ โซลชา ซึ่งอธิบายไว้ว่าต้องการให้ร่างกายลงตัว ไม่อย่างนั้นอาจเสี่ยงต่ออาการบาดเจ็บซ้ำได้อีก

กว่าที่ คาวานี่ จะประเดิมต้องรอถึง 24 ตุลาคม ลงมาเป็นตัวสำรองแทน แดน เจมส์ ในช่วงครึ่งชั่วโมงสุดท้ายเกมลีกเสมอเชลซีแบบโนสกอร์ ซึ่งยังไม่ได้แผลงฤทธิ์อะไรนัก

แต่สิ่งที่ คาวานี่ สร้างความประทับใจมากๆคือช่วงฝึกซ้อม เปิดเผยให้เห็นความเป็นมืออาชีพเต็มเปี่ยม

ใครที่ไม่เคยรู้จักตัวตนหรือสัมผัสมาก่อน อาจเตลิดคิดไปว่า คาวานี่ ย่อมเหมือนกับแข้งอเมริกาใต้ทั่วไป ฝีเท้าไม่เป็นที่สงสัย แต่อารมณ์ศิลปิน มักทำตามใจตัวเอง ไม่ค่อยเน้นการทำงานหนัก เพราะคิดว่ามีพรสวรรค์คอยสนับสนุน

ทว่าตรงกันข้ามอย่างสิ้นเชิง คาวานี่ มุ่งมั่นและทำงานอย่างหนัก ไม่เคยแสดงอาการเหยาะแหยะ รวมทั้งคิดว่าตัวเองเป็นซูเปอร์สตาร์เลย

นอกจากนั้นยังใส่ใจทุกอย่าง ตั้งแต่เรื่องใหญ่ไล่ไปจนถึงสิ่งที่ทุกคนคิดว่าเล็กน้อย

ขนาดอาหารที่สโมสรจัดให้ซึ่งถูกหลักตามโภชนาการอยู่แล้ว กินได้ตามสะดวก แต่เขายังพิถีพิถัน ไม่ใช่ก้มหน้าก้มตาสวาปาม

พฤติกรรมเหล่านี้อยู่ในสายตาของ โซลชา และทีมงานมาตลอด ส่วนเพื่อนร่วมทีมก็รู้สึกดีเช่นกัน เพราะ คาวานี่ ยังคอยสอนน้องๆทุกคน พวกแข้งตัวรุกจะได้รับคำแนะนำที่ดี

ประสบการณ์และความเป็นมืออาชีพ คือจุดแข็งช่วยให้ คาวานี่ ยืนหยัดในจุดนี้ได้ ซึ่งมันไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับนักเตะที่อายุมากขึ้นทุกวัน

โซลชา ชื่นชมในตัวแข้งอุรุกวัยหลายอย่าง แม้กระทั่งการวิ่งไล่บอลกดดันฝั่งตรงข้าม ก็ล้วนแต่โชว์ให้รู้เลยว่าแพสชั่นแค่ไหน ไม่ใช่ว่าย้ายมาเพื่อโกยเงินในช่วงท้ายของอาชีพ

ไม่ใช่เรื่องแปลกเลยหากสโมสรจะตัดสินใจใช้อ็อปชั่นขยายสัญญาอีก 1 ปี ทุกอย่างเหมาะสม ไม่มีเหตุผลอะไรต้องมาค้างคากังขาน่าสงสัย

ตอนย้ายมาเขาอาจดูเหมือนว่าเป็นดีล panic buy ซื้อเพราะไม่ได้ใครแล้ว ล้มเหลวในการเจรจากับ เจดอน ซานโช่ เลยต้องรีบหาใครสักคนมาเสริม ไม่อย่างนั้นบอร์ดโดนถล่ม

ทุกอย่างผ่านการพิสูจน์เรียบร้อย สำหรับ คาวานี่ ไม่มีอะไรให้เคลือบแคลงกันอีก ของฟรีมีคุณภาพนานๆทีถึงตกมายังแมนฯยูไนเต็ดกันบ้าง

ตำนานเรือใบ ! บทสรุปของ กุน จะเป็นแบบไหน อนาคตจะยังอยู่หรือไม่ เวลาจะเป็นคำตอบ

กิตติศัพท์ความเก่งกาจของ กุน ย่อมตกอยู่ในโฟกัสของเหล่าแนวรับฝ่ายตรงข้าม แต่เขามีวิธีการรับมือได้ไม่ยากนัก

ผู้จัดการทีมคนไหนมีหัวหอกแบบนี้อยู่ในทีมย่อมแฮปปี้เป็นธรรมดา ไม่เจ็บไม่ว่าแถมยิงกระจุยอีกต่างหาก

อย่างไรก็ตามใช่ว่าจะโรแมนติกราบรื่นไปตลอด มีบ้างที่เกิดความขัดแย้งตามวิถี ยกตัวอย่างในปี 2017 กาเบรียล เชซุส กองหน้าดาวรุ่งทีมชาติบราซิลย้ายมาสมทบเพิ่มความดุดันในการเข้าทำ

มีอยู่ช่วง เชซุส ฟอร์มเข้าฝักมากๆ มีแววจะตอบโจทย์ความต้องการของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า เลยได้ลงเล่นต่อเนื่อง กระทั่งเบียด กุน ไปนั่งสำรองส่วนใหญ่

ดาวเตะอาร์เจนไตน์รู้สึกแย่มาก วาบความคิดอยากจะย้ายทีมขึ้นมา อย่างไรก็ดีเมื่อได้คุยเปิดใจกับเจ้านายทุกอย่างก็เรียบร้อย

กุน ได้เหรียญรางวัลแชมป์พรีเมียร์ลีกมาคล้องคอถึง 4 เหรียญ แชมป์ลีกคัพอีก 5 สมัย เอฟเอคัพอีก 1 เรียกว่าสัมผัสเกียรติยศในประเทศมาหมดแล้ว เหลือเพียงแค่ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีกยังคงถวิลหาไล่ล่ากันต่อไป

กระนั้นฤดูกาลที่แล้วต่อเนื่องมายังซีซั่นปัจจุบัน เกิดสัญญาณเตือนที่ไม่ค่อยดีสักเท่าไรนัก

เริ่มจากเจ็บกล้ามเนื้อปลายปี 2019 พักร่วมเดือน พอหายกลับมาได้ยิงสม่ำเสมอก็ต้องมาเดี้ยงอีกช่วงรีสตาร์ท ครั้งนี้หนักหนาสุดในชีวิตการค้าแข้ง เพราะแผลที่หัวเข่าร้ายแรงถึงขั้นเบรกไปทั้งสิ้น 113 วันด้วยกัน

จากมิถุนายนต้องฟื้นฟูกันยาวถึงตุลาคมปีที่แล้ว พอสลัดเดี้ยงสำเร็จ หวนคืนสู่สังเวียนอีกคำรบก็ไม่เหมือนเดิมอีก

ราวเดือนพฤศจิกายนยังเผชิญกับปัญหาที่แฮมสตริงซึ่งเวียนมาเยือน มันเป็นแผลเก่าที่เคยเล่นงานมาก่อน แม้จะใช้เวลาเยียวยาไม่นานราว 3 สัปดาห์ แต่การบาดเจ็บแบบสะสม มันบ่งบอกเลยว่าร่างกายทรุดลงกว่าเดิม

ซีซั่นก่อนเขายิงได้ 23 ประตูทุกรายการ ดูแล้วไม่น้อยหรอก แต่ต่ำกว่ามาตรฐานที่เคยสร้างเอาไว้

ผลกระทบยาวมาถึงฤดูกาลนี้ เพิ่งจะลงให้ซิตี้ไปเพียงแค่ 9 เกม ไม่เคยอยู่ครบ 90 นาทีเลยสักเกม รวมแล้วอยู่ในสนาม 260 นาทีเท่านั้น ทำไปได้แค่ 2 ประตูไม่มีสักแอสซิสต์เดียว

ไม่น่าแปลกใจว่าทำไมประสิทธิภาพในการเข้าทำของเรือใบสีฟ้าจึงลดประสิทธิภาพลงอย่างน่าใจหาย ไม่เร่าร้อนรุนแรงเหมือนอย่างที่เคยทำไว้

นั่นจึงเป็นที่มาของกระแสอาจยุติ 10 ปีในฐานะแข้งซิตี้ โดยสัญญาฉบับปัจจุบันหมดลงในซัมเมอร์ที่จะถึงนี้

ทางออกของ กุน หากไม่กลับไปเล่นในอาร์เจนตินาบ้านเกิด ก็คงเลือกสโมสรใหญ่ในยุโรปที่พร้อมอ้าแขนรับ ท่ามกลางกระแสปารีส แซงต์ แชร์กแมงมีโอกาสมากสุด

ถึงตรงนี้ กุน เล่นให้แมนฯซิตี้ 379 นัด พร้อมผลงาน 256 ประตู หากจบซีซั่นแยกทางกันจริง คงยากที่จะเล่นครบ 400 เกม

และ เขาคือกองหน้าที่ดีสุดในประวัติศาสตร์แมนฯซิตี้อย่างแน่นอน

 

เกาะติดวงการลูกหนังไทยและต่างประเทศ

Line @kickoff69 ได้ที่นี่

แผนนี้แจ่มมั้ย ! เผยโฉม สิงห์บลู ยุคใหม่หาก ทูเคิ่ล ได้ 3 สตาร์เสริมทัพ

สื่อต่างประเทศหลายสำนักต่างรายงานตรงกันว่า โธมัส ทูเคิ่ล เตรียมได้รับการแต่งตั้งให้มาสานงานต่อจาก แฟร้งค์ แลมพาร์ด หลังจากกุนซือชาวเยอรมันกำลังว่างงานนับตั้งแต่ถูก ปารีส แซงต์ แชร์กแมง ปลดออกจากตำแหน่งเมื่อเดือนที่แล้ว

ทั้งนี้คาดว่าสาเหตุที่ เชลซี เลือก ทูเคิ่ล เข้ามากุมบังเหียนนั้นจะสามารถเข้ามาเรียกฟอร์มการเล่นของคู่หูทีมชาติเยอรมันอย่าง ติโม แวร์เนอร์ และ ไค ฮาแวร์ทซ์ ที่ไม่สามารถเรียกฟอร์มเก่งออกมากได้นับตั้งแต่ย้ายมาจากลีกเมืองเบียร์ด้วยค่าตัวมหาศาลเมื่อช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา

ล่าสุด เดอะ ซัน ได้จัดทำไลน์อัพ เชลซี ในยุคของ ทูเคิ่ล ในอนาคต หากได้ใช้งบเสริมทัพซื้อสตาร์ดังเข้ามาเพิ่มทั้ง ดาโยต์ อูปาเมกาโน่ ปราการหลังจาก แอร์เบ ไลป์ซิก ที่ทำผลงานได้อย่างโดดเด่นและตกเป็นข่าวเชื่อมโยงกับยักษ์ใหญ่ทั่วยุโรป

ขณะที่รายต่อมาเป็น มาร์โก แวร์รัตติ มิดฟิลด์ตัวเก่งจาก ปารีส แซงต์ แชร์กแมง ที่มีข่าวเชื่อมโยงในการย้ายออกจากทีม และจะได้กลับมาร่วมงานกับ ทูเคิ่ล อีกครั้ง


ปิดท้ายที่ เออร์ลิง ฮาแลนด์ กองหน้าคนเก่ง โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ที่มีรายงานว่า เชลซี วางแผนการใหญ่ที่จะทุ่มเงินเป็นสถิติใหม่สโมสรเพื่อดึงตัวมาร่วมทีมให้ได้หลังจบฤดูกาลนี้

และนี่คาดว่าจะเป็นหน้าตา 11 ตัวจริงของ เชลซี ในยุค โธมัส ทูเคิ่ล หากได้แข้งเหล่านี้เข้ามาเสริมทัพ โดยมาในระบบ 4-3-3

เริ่มจากตำแหน่งผู้รักษาประตูยังคงเป็น เอดูอาร์ เมนดี้ ที่รับบทมือ 1 ต่อไป ส่วนแบ็กโฟร์ให้ รีซ เจมส์ ยืนแบ็กขวา ด้าน เบน ชิลเวลล์ เล่นทางซ้าย ส่วนคู่เซนเตอร์เป็น ติอาโก้ ซิลวา จับคู่กับ ดาโยต์ อูปาเมคาโน่

ขณะที่กองกลางมี เอ็นโกโล่ ก็องเต้ ยืนทำหน้าที่คู่กับ มาร์โก แวร์รัตติ โดยมี ไค ฮาแวร์ทซ์ คอยทำหน้าที่เป็นตัวบัญชาเกมรุกตามถนัด

ส่วน 3 ประสานแดนหน้าให้ คริสเตียน พูลิซิช ไปยืนริมเส้นด้านขวา ขณะที่ ติโม แวร์เนอร์ ประจำการฝั่งซ้าย โดยมี ฮาแลนด์ รับบทกองหน้าตัวเป้า

 

เกาะติดวงการลูกหนังไทยและต่างประเทศ

Line @kickoff69 ได้ที่นี่