เดอะแบกแห่งปี 2021 ! เราควรเลิกสงสัยหรือตั้งคำถามได้แล้วว่า บรูโน่ เจ๋งจริงหรือเปล่า

2 กุมภาพันธ์ปีก่อน บรูโน่ ประเดิมอย่างเป็นทางการในสีเสื้อของแมนฯยูไนเต็ดเป็นเกมลีกที่ดวลวูล์ฟแฮมป์ตัน

ช่วงแรกเขายืนตัวรุกคอยปั้นเกม ก่อนจะเปลี่ยนมาปักหลักเป็นมิดฟิลด์ตัวกลางหรือเบอร์ 6

ภาพรวมของเขาทำได้ดีมากๆ สามารถรับมือกับเกมที่หนักและเร็ว แต่ยังมีแฟนบอลบางส่วนมองไม่เห็น มีการตั้งคำถามว่าค่าตัวตั้งแพงเล่นได้ดาดๆแค่นี้เองหรือ

แต่หากใครได้รู้ความจริง บรูโน่ มาถึงแล้วแทบไม่มีเวลาปรับตัวอะไรทั้งสิ้น ลงซ้อมได้แค่วันเดียวก็ออกสตาร์ตในวันรุ่งขึ้น

เขายืนยันกับบอสเองว่าพร้อมเต็มที่ไม่มีปัญหา ทั้งสภาพร่างกายและความกระหายลงเล่น

ว่ากันว่า โซลชา พอใจทัศนคติเช่นนี้ของลูกทีมคนใหม่ๆมาก จากนั้นก็ส่งลงเล่นอย่างสม่ำเสมอและได้รับผลตอบแทนกลับมาที่คุ้มค่า

ไม่ใช่แค่ผลงานในสนามที่เปลี่ยนไป แต่บรรยากาศภายในทีมก็ดีขึ้น ทีมสปิริตแกร่งกว่าที่เคย ห้องแต่งตัวดูมีชีวิตชีวาอีกครั้ง

ส่วนหนึ่งมาจากการปลุกเร้าของ บรูโน่ ไม่ว่าจะการแสดงออกให้เพื่อนเห็นเป็นตัวอย่างยามอยู่ในสนามหรือกระตุ้นด้วยคำพูด

แม้บางทีพูดเยอะเกินไป จนเหมือนกลายเป็นตำหนิข้างเดียวกัน นำไปสู่การตอบโต้คืนทั้งเคส วิคตอร์ ลินเดอเลิฟ และ เนมานย่า มาติช แต่ล้วนเต็มไปด้วยเจตนาที่ดี ต้องการทำเพื่อทีมมากกว่าส่วนตัว

ที่สำคัญ บรูโน่ ไม่เก็บเอามาคิด จบแล้วก็จบกันไปในสนาม ความสัมพันธ์ข้างนอกยังเหมือนเดิม

เขาสามารถเคลียร์กับเพื่อน ทำความเข้าใจภายหลังได้ พร้อมทั้งยืนยันว่าไม่ได้ต้องการโทษใครเลย แต่บางครั้งสถานการณ์มันพาไปเอง

ทุกคนต่างยินดีที่ได้นักเตะคุณสมบัติเช่นนี้มาร่วมงานทั้งสิ้น

นักเตะทุกคนเกลียดความพ่ายแพ้เป็นเรื่องปกติ แต่สำหรับ บรูโน่ แล้วทีมแพ้ขึ้นมาจะเข้าขั้นผิดหวังขีดสุด จิตตกอยู่นานกว่าจะดึงตัวเองขึ้นมาได้

บางครั้งรู้สึกผิดบาปต้องโพสต์ระบายขอโทษแฟนบอล ซึ่งนั่นอีกทางออกที่พอช่วยปลดปล่อยความอัดอั้นได้บ้าง

เป้าหมายของ บรูโน่ คือในฤดูกาลนี้ต้องได้สัมผัสโทรฟี่กับแมนฯยูไนเต็ดสักใบหรืออย่างน้อยผ่านเข้าชิงบอลถ้วยสักรายการ เพราะผิดหวังมาตลอดในเกมตัดเชือกทั้ง 3 ครั้งหลังที่มีส่วนร่วม

จากผลงานในสนามและแพสชั่นที่ได้เห็น เราควรเลิกสงสัยหรือตั้งคำถามได้แล้วว่า บรูโน่ เจ๋งจริงหรือเปล่า เพราะเจอทีมใหญ่ทีไรมักจะหายเข้ากลีบเมฆ

ขนาดนี้แล้วต้องยกย่องมากกว่า เพราะถ้าไม่มี บรูโน่ จริงๆ ชะตากรรม โซลชา เวลานี้จะเป็นอย่างไรบ้างไม่รู้

บอกได้คำเดียวว่าแมนฯยูไนเต็ดโชคดีมากๆที่มีนักเตะชื่อ บรูโน่ แฟร์นันด์ส อยู่ในทีม

เกาะติดวงการลูกหนังไทยและต่างประเทศ

Line @kickoff69 ได้ที่นี่

ประกาศผลสอบ ! ซาลาห์ซัดสอง – บรูโน่ ซูเปอร์ซับ ผีแดงเขี่ยหงส์ร่วง เอฟเอ คัพ

คะแนนนักเตะ แมนฯ ยูไนเต็ด

ดีน เฮนเดอร์สัน – 6/10
แม้จะเสียถึง 2 ประตูในเกมวันนี้ แต่ก็มีจังหวะเซฟสวย ๆ ช่วยทีมเอาไว้ได้หลายครั้ง

อารอน วาน บิสซาก้า – 7/10
สามารถรับมือกับเกมรุกของทีมเยือนได้ดีโดยเฉพาะครึ่งหลัง แถมมีจังหวะเติมเกมขึ้นสูงสวย ๆ หลายครั้ง

แฮร์รี แม็คไกวร์ – 6/10
แม้จะไม่มีข้อผิดพลาดที่เห็นได้ชัดเจน มีบางช่วงที่ถูกแนวรุกของทีมเยือนบุกกดดันอย่างหนัก แต่ยังสามารถแก้ไขจังหวะเฉพาะหน้าเอาไว้ได้ดี

วิคตอร์ ลินเดอเลิฟ – 6/10
เห็นได้ชัดว่ามีปัญหาชัดเจนในการรับบมือกับความคล่องตัวของแนวรุกทีมเยือน แถมวันนี้ดูจะยืนตำแหน่งได้ไม่ค่อนดีนักจนเกือบทำให้ทีมเสีบประตูหลายครั้ง

ลุค ชอว์ – 6/10
งานค่อนข้างหนักในเกมรับ โดยเฉพาะการต้องรับมือกับความเร็วของ ซาลาห์ แต่ก็พอจะมีจังหวะตัดบอลสวย ๆ ให้เห็นอยู่บ้าง

สกอตต์ แม็คโทมิเนย์ – 6/10
วันนี้ดูจะเล่นได้ต่ำกว่ามาตรฐานเล็กน้อยในเกมรับ ครองบอลไว้กับตัวนานเกินไปจนเสียโอกาสที่ทีมจะได้โต้กลับ

พอล ป็อกบา – 7/10
วันนี้บทบาทค่อนข้างโดดเด่นในช่วงครึ่งแรก มีจังหวะได้ขึ้นมาลุ้นประตูหลายครั้ง แถมยังมีจังหวะตัดบอลในเกมรับสวย ๆ ช่วยทีมได้ค่อนข้างเยอะในเกมนี้

ดอนนี ฟาน เดอ เบ็ค – 5/10
บทบาทในเกมถือว่าน้อยมากในตำแหน่งตัวปั้นเกมแทนที่ บรูโน จนกระทั่งถูกเปลี่ยนตัวออกไปในช่วงครึ่งชั่วโมงสุดท้าย

เมสัน กรีนวูด – 7/10
แม้ฟอร์มจะยังไม่เข้าทีนัก แต่ก็มีส่วนร่วมกับทั้ง 2 ประตูของทีมที่ทั้งยิงทั้งจ่ายช่วยให้ทีมคว้าชัยมาครองได้

มาร์คัส แรชฟอร์ด – 8/10
ยังดูเล่นค่อนข้างหวงบอลเช่นเคย แต่เกมรุกริมเส้นจัดว่าหวือหวาพอสมควร ทำได้ 1 ประตูกับอีก 1 แอสซิสต์ในเกมวันนี้

เอดิสัน คาวานี – 6/10
แม้จะได้บอลค่อนข้างน้อย แถมมีจังหวะเสียบอลกลางสนามจนทำให้ทีมเสียประตู แต่ก็จัดว่ามีประโยชน์กับทีมพอสมควร มีโอกาสโหม่งชนเสา แถมเรียกฟรีคิกในจังหวะประตูชัยให้ทีมได้ในช่วงท้ายเกม

ตัวสำรอง
เฟร็ด (ลงสนามนาทีที่ 66 แทนที่ กรีนวูด) – 6/10
ลงมาช่วยไล่บอลกลางสนามได้ค่อนข้างดี

บรูโน เฟอร์นันเดส (ลงสนามนาทีที่ 66 แทนที่ ฟาน เดอ เบ็ค) – 7/10
ลงมาสร้างความแตกต่างได้อย่างชัดเจน สร้างสรรค์จังหวะให้ทีมได้อย่างยอดเยี่ยม แถมยังยิงฟรีคิกเป็นประตูชัยให้ทีมได้อีกด้วย

อ็องโตนี มาร์กซิยาล (ลงสนามนาทีที่ 86 แทนที่ แรชฟอร์ด) – N/A

คะแนนนักเตะ ลิเวอร์พูล
อลิสซอน เบ็คเกอร์ – 6/10
ไม่สามารถโทษเจ้าตัวได้กับทั้ง 3 ประตูที่เสียไปในเกมนี้

เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ – 6/10
หวังผลไม่ได้อย่างที่ต้องการกับจังหวะครอสบอลท่ีริมเส้น มีปัญหาในการรับมือกับ แรชฟอร์ด

รีส วิลเลียมส์ – 4/10
มีความผิดพลาดให้เห็นหลายต่อหลายครั้งโดยเฉพาะจังหวะอันนำไปสู่การเสียประตูที่ 2 ของทีมให้ แรชฟอร์ด

ฟาบินโญ – 6/10
ไม่ได้มีช็อตน่าเป็นห่วงให้เห็นนักนอกจากการกลับประจำการในพื้นที่รับผิดชอบไม่ทันอันเป็นที่มาของการเสียประตูตีเสมอ 1-1

แอนดี้ โรเบิร์ตสัน – 6/10
เช่นเดียวกับ ฟาบินโญ ที่มีส่วนร่วมกับการเสียประตูแรก งานชุกในการรับมือกับ เมสัน กรีนวูด

เจมส์ มิลเนอร์ – 7/10
ไม่ได้กระตือรือล้นมากเพียงพอในการวิ่งไล่ กรีนวูด ในจังหวะสวนกลับเร็วของเข้าถิ่น เป็นช็อตน่าผิดหวังของเจ้าตัวเพียงครั้งเดียวในเกมนี้ก่อนที่จะมีบทบาทในการบีบพื้นที่แข้ง ปีศาจแดง อย่างต่อเนื่องและมีส่วนกับการได้ประตูตีเสมอ 2-2 ของ หงส์แดง

จินี ไวนัลดุม – 6/10
วูบวาบกับการเคลื่อนที่ในแดนกลาง

ติอาโก้ อัลคันทารา – 6/10
มีปัญหาในการตามความรวดเร็วของแข้ง ปีศาจแดง จนต้องงัดฟาวล์ตัดเกมหลายครั้ง

โมฮาเหม็ด ซาลาห์ – 8/10
ค่อยๆ มีบทบาทกับเกมมากขึ้นเรื่อยๆ เมื่อเวลาผ่านไป น่าเสียดายที่ไม่อาจทำแฮตทริคได้ในเกมนี้

โรแบร์โต้ ฟิร์มิโน – 7/10
ทำได้ดีกับการบีบพื้นที่แนวรับของเจ้าถิ่น ได้แอสซิสต์ให้กับ ซาลาห์ ในประตูเบิกร่องและประตูที่ 2

เคอร์ติส โจนส์ – 6/10
ใช้เวลาอยู่พักใหญ่กว่าที่จะจับจังหวะของเกมได้ มีส่วนร่วมในการตัดเข้าในเพื่อเปิดเกมรุกจากพื้นที่ตรงกลาง

ตัวสำรอง
ซาดิโอ มาเน (ลงสนามแทนที่ ไวนัลดุม นาทีที่ 65) – 6/10
ได้รับใบเหลืองจากจังหวะทำฟาวล์ใส่ เฟร็ด โดยรวมเร่งจังหวะของเกมรุกให้ หงส์แดง

ดิว็อค โอริกี (ลงสนามแทนที่ ฟิร์มิโน นาทีที่ 81) – N/A

เซอร์ดาน ชากิรี (ลงสนามแทนที่ ติอาโก้ นาทีที่ 81) -N/A

เกาะติดวงการลูกหนังไทยและต่างประเทศ

Line @kickoff69 ได้ที่นี่