สตีเวน เจอร์ราร์ด ! ผู้จัดการทีมลิเวอร์พูลจะไม่อยู่ในจินตนาการอีกต่อไป

เดอะ ค็อปจึงวาดฝันไว้ว่าเมื่อถึงวันนั้นหรืออีก 4 ปีข้างหน้า เจอร์ราร์ด คงสุกงอมพอสำหรับตำแหน่งนายใหญ่หงส์แดง

อย่างไรก็ตามสิ่งที่ เจอร์ราร์ด เจ็บปวดคือในศึกโอลด์เฟิร์มทั้ง 3 เกมที่ดวลกับเซลติก ล้วนแต่ปราชัยทั้งสิ้น

การเผชิญหน้ากันของสองทีมนี้ อาจไม่ได้สลักสำคัญอะไรในโลกฟุตบอล แต่อินเนอร์ของกองเชียร์แล้วจะมาแบบเข้มเต็มพิกัด ความพ่ายแพ้ถือเป็นรอยด่างพร้อยเลยทีเดียว

ฤดูกาลปัจจุบัน เจอร์ราร์ด จึงหมายมั่นต้องนำทีมล้มเซลติกให้ได้ ไม่ใช่แค่เกมที่ต้องเจอกันอย่างเดียว แต่หมายถึงต้องกลับคืนสู่อำนาจอีกครั้งด้วยการเป็นแชมป์ลีกด้วย

เรนเจอร์สจึงออกสตาร์ตซีซั่นปัจจุบันด้วยผลงานอันเยี่ยมยุทธ 20 นัดทุกรายไม่แพ้เลย อีกทั้งเป็นการเสมอเพียงแค่ 3 เกมเท่านั้น

บนตารางเชิดหน้านำจ่าฝูงอย่างสง่างามทิ้งห่างเซลติก 9 แต้มเต็ม แม้หนทางยังทอดยาวอีกไกล แต่สาวกเดอะไลท์บลูส์ย่อมมองข้ามช็อตแล้ว สิบปีเต็มที่ห่างหายจากสารบบ มันนานมากๆ

นี่คือผลงานระดับมาสเตอร์พีซของจริง เพราะเทียบงบประมาณต่างๆแล้ว เรนเจอร์สใช้น้อยกว่าเซลติกเกือบเท่าตัวด้วยกัน

อย่างค่าจ้างผู้เล่นแค่ปีละ 34 ล้านปอนด์เท่านั้น เทียบกับเซลติกคือ 56 ล้านปอนด์ถือว่าต่างกันไม่ใช่น้อยๆ

แต่ เจอร์ราร์ด เฟ้นหานักเตะที่มีแววด้วยราคาไม่แพง ก่อนมาขัดเกลาจนส่องประกายเจิดจ้าน่าสนใจ

ยกตัวอย่าง คอร์เนอร์ โกลด์สัน ซึ่งย้ายมาจากไบทร์ตันในปี 2018 ยกระดับกลายเป็นเซ็นเตอร์แบ็กที่ดีสุดคนหนึ่งของลีก

สตีฟ เดวิส กลายเป็นห้องเครื่องสำคัญ ด้วยวัย 35 ปีประสบการณ์อันโชกโชน โดยผ่านเกมในพรีเมียร์ลีกมาแล้ว สามารถประคับประคองเป็นเสาหลักได้อย่างมั่นคง

เช่นเดียวกับคูหู่อย่าง ไรอัน แจ็ค ฟอร์มดีผิดหูผิดตา นับตั้งแต่ย้ายมาในปี 2017 นี่ถือเป็นช่วงที่พีกสุด จนกลับมาติดทีมชาติสก๊อตแลนด์อีกครั้ง

ชัดเจนเลยว่าหลังผ่านการเรียนรู้และสรุปบทเรียนได้แล้ว เจอร์ราร์ด ก็จัดการบริหารตามแนวทางของตนทีละขั้นตอน ไม่มีการก้าวข้ามหรือขึ้นลิฟท์ทางลัด

ผลงานดีแบบนี้ใครอยากเห็น เจอร์ราร์ด รับไม้ต่อจาก คล็อปป์ อาจไม่ได้เป็นเพียงแค่ฝัน

 

เกาะติดวงการลูกหนังไทยและต่างประเทศ

Line @kickoff69 ได้ที่นี่

ใช้ ผี เป็นเครื่องมือ ! เซร์คิโอ รามอส กลับมาเกี่ยวพันกับปีศาจแดงอีกครั้ง

สื่อต่างๆ นัดกันโหมกระแส เซร์คิโอ รามอส เซ็นล่วงหน้ากับแมนฯยูไนเต็ด โดยจะย้ายมาในซัมเมอร์ที่จะถึงนี้

พร้อมระบุว่าจะได้รับค่าจ้างราว 200,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์ ซึ่งเป็นเรตที่ไม่ได้สูงอะไรนัก

ตามสถานการณ์ที่เราต่างรับรู้กันนั่นแหล่ะ สัญญา รามอส ที่มีอยู่กับเรอัล มาดริดจะครบเทอมในมิถุนายน 2021 หรืออีกแค่ 5 เดือนเท่านั้นและการเจรจาเพื่อขยายออกไปไม่เป็นเป็นผล

เหตุผลที่สะดุดมาจาก 2 ข้อใหญ่ๆ หนึ่งคือระยะเวลาสัญญามาดริดไม่ให้เกิน 1 ปีหรอก นักเตะอายุมากแล้ว มีนาคมนี้จะครบ 35 วัดตามมาตรฐานใกล้แขวนสตั๊ดเต็มที

อาจอนุโลมในแง่ที่ รามอส รับใช้ทีมมาตั้งแต่ปี 2005 ย้ายจากเซบีย่ามาแล้วเป็นตัวหลักในแนวรับมาตลอด แทบไม่เคยประสบปัญหาอาการบาดเจ็บหนักๆเลย จึงมีอ็อปชั่นแนบไว้อีก 1 ปี

แน่นอนว่าเป้าหมายของ รามอส ไม่ใช่แบบนี้ เขาไม่จำเป็นต้องทวงบุญคุณอะไร แต่เรียกร้องตามความต้องการนั่นคือต้องได้ 2 ปี

อย่างน้อยที่สุดมันต้องมองเห็นคุณค่าของซื่อสัตย์ภักดีกันบ้าง ไม่ใช่คำนึงถึงผลประโยชน์ของสโมสรฝ่ายเดียวเท่านั้น

แม้จะไม่มีการเปิดเผยตัวเลขจริงๆ แต่จากสื่อและแหล่งข้อมูลส่วนใหญ่เชื่อว่าได้จากมาดริดไม่เกิน 11 ล้านปอนด์ต่อปี

คำนวณแล้วตกสัปดาห์ล่ะ 2.2 ล้านปอนด์ สำหรับนักเตะที่เป็นกัปตันทีม คล้ายอีกหนึ่งสัญลักษณ์ แม้จะไม่ได้เติบโตมาจากอะคาเดมี่ แต่ก็หลักไมล์ที่รับใช้สโมสรก็ยืนยาวเข้าสู่ปีที่ 16

สำคัญไม่น้อยไปกว่ากันคือ รามอส สามารถรักษามาตรฐานได้อย่างดีเยี่ยม อีกทั้งนำความสำเร็จมากมายมาให้

15 ปีของเขาคว้าแชมป์ลาลีกา 5 ครั้ง ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีกอีก 4 ครั้ง รวมทั้งติดทีมยอดเยี่ยมยูฟ่าถึง 9 ครั้งด้วยกัน

แต่ด้วยสถานการณ์ปัจจุบัน ไวรัสที่ระบาดหนักจนหลายสโมสรอ่วมไปตามๆกัน นี่จึงไม่ใช่ช่วงเวลาจะต้องมาเปย์ก้อนใหญ่แลกกับนักเตะวัย 35 ปีเลย

เต็มที่คือตัวเลขเท่าเดิม เคสแบบนี้ควรเห็นใจสโมสรที่มีความเสี่ยงจะหนี้พอกได้แบบบาร์เซโล่าเผชิญอยู่ ไม่ใช่เห็นแก่ได้ฝ่ายเดียว

ในเมื่อต่างฝ่ายต่างมีจุดยืนอันมั่นคงและเหตุผลของตัวเอง บทสรุปง่ายๆคือแยกย้ายตัวใครตัวมัน

หากไม่มีเหตุคลาดเคลื่อน รามอส น่าจะเก็บเสื่อหมอนอำลามาดริด แต่ป้ายหน้าจะเป็นที่ไหนนั้น มันน่าติดตามไม่น้อย

ฉะนั้นการได้เล่นในลีกใหญ่ของยุโรป ที่เปลี่ยนบรรยากาศไปจากลาลีกา มันย่อมน่าลิ้มลองบรรยากาศมากๆ

และหากเราต่างเชื่อกันว่าพรีเมียร์ลีกคือลีกดีสุดในโลก รามอส เองก็คงมีความคิดในทำนองนั้นด้วย

เรเน่ รามอส พี่ชายซึ่งทำหน้าที่เอเจนต์ อยากจะมีส่วนในการโน้มน้าวน้าวน้องให้มาโชว์ฝีเท้าในลีกผู้ดีบ้าง ดังนั้นเลยถูกนำไปโยงกับแมนฯยูไนเต็ดอย่างที่รับรู้กัน

เป็นช่วงที่ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา กำลังมองหาเซ็นเตอร์แบ็กชั้นเซียนมายืนคู่กับ แฮร์รี่ แม็กไกวร์ แม้วัยจะไม่ตรงสเป็กนัก แต่ในส่วนอื่นถือว่าเหมาะสมทั้งสิ้น

แมนฯยูไนเต็ดขบวนนี้ต้องการผู้นำในสนามที่กร้าวแกร่ง พร้อมชนแหลกกับฝั่งตรงข้ามและร้องถามผู้ตัดสินเพื่อปกป้องผลประโยชน์ให้ทีม รามอส จึงตอบโจทย์อย่างไม่ต้องสงสัย

นอกจากนี้แหล่งข่าววงในยังอ้างด้วยว่า โซลชา ไม่ได้สนใจ ดาโยต์ อูปาเมกาโน่ เท่าไรนัก ปล่อยให้ลิเวอร์พูล , เชลซีและบาเยิร์น มิวนิคเปิดศึกแย่งกัน ความเป็นไปได้ในเคสดึง รามอส จึงเพิ่มน้ำหนักมากกว่าเดิม

ในปี 2015 รามอส เคยตกเป็นข่าวกับแมนฯยูไนเต็ดอย่างหนักหน่วง หลุยส์ ฟานกัล กุนซือเวลานั้นเปิดแขนรอต้อนรับแล้ว แต่สุดท้ายกลับขยายสัญญามาดริดต่อ ท่ามกลางเสียงนินทาว่าแท้จริงใช้เป็นเครื่องมือเพื่อต่อรองต่างหาก

ผ่านไป 6 ปี รามอส กลับมาเกี่ยวพันกับปีศาจแดงอีกครั้ง ต่างกรรมต่างวาระกันไป

แมนฯยูไนเต็ดจะตกเป็นเครื่องมืออีกหรือไม่ อีกไม่นานเราคงได้คำตอบกัน

เกาะติดวงการลูกหนังไทยและต่างประเทศ

Line @kickoff69 ได้ที่นี่