ยังสำคัญอยู่ไหม ? Pogba กับอนาคตที่ยังเป็นคำถามของแฟนผีแดง

มิดฟิลด์ ดีกรี แชมป์ โลก ชาวฝรั่งเศษนั้น ถือ เป็น 1 ในกองกลาง ที่ดีที่สุด

แห่งยุค แน่นอน ถ้าวัดจาก นักเตะในรุ่นเดียวกัน จะต้องมีชื่อของเขา โผล่ติดลิสต์ แน่ ด้วย ผลงานรางวัลการันตี ทั้งส่วนตัว หรือ กับทีมชาติ

แต่ด้วยการ กลับมาในฐานะกุนซือ ของ โอเล่ กุนนาร์ โซลชาร์ ที่เปลี่ยน แผนการเล่นของ แมนยู ให้กลายเป็นระบบ 4-2-3-1 เน้น บอลสวนกลับ

และการเคลื่อนที่ของนักเตะ ที่ต้องรวดเร็ว คิดเร็ว ทำเร็ว เพื่อ สอดคล้อง กับการเล่น แบบไดเรค น้อยจังหวะ เพื่อส่งถ่ายบอล ขึ้นแดนหน้า ทำให้

บทบาทของ ป๊อกบา กับแมนยู ยังคงเป็นคำถามถึงทุกวันนี้ หลังจากที่มี สโมสร ยักษ์ใหญ่ อย่างรีลมาดริด คอยตามจีบอยู่ ซึ่งตัวเขานั้น เป็นมิดฟิลด์ สไตล์ ชอบ เก็บบอลไว้กับตัว และ เล่นบอล หลายจังหวะ

ถึงแม้การมีเขา ลงสนามจะทำให้ ผีแดง มี อาวุธเพิ่มขึ้น จากการ วางบอลที่แม่น ยำ บวกกับ การยิงแถวสอง ของเขาก็ตาม ก็เทียบไม่ได้กับ ในเกมสำคัญ

ที่เขามักจะเก็บบอลไว้ และพลาดท่าเสียบอลในพื้นที่อันตราย จนโดนทำประตู อยู่ร่ำไป ดังนั้น แล้วเชื่อว่า บรรดาแฟนๆ ทีมปีศาจแดง

คงต่าง อยากรู้อนาคต ของเขากันทั้งนั้น ว่าถ้าเขาตัดสินใจอยู่ต่อ เขาพร้อม

ที่จะปรับตัวกับบทบาทที่ได้รับ หรือไม่ หรือควรจะขายเขาออกไป หากได้ราคาที่สูง เพราะ กุนซือ อย่าง โซลชาร์ นั้น ในตลาด การซื้อขาย

ก็เห็นๆกันแล้วว่าเขา”ดี”พอและสายตาค่อนข้างเฉียบคมในการเลือกนักเตะ

ดังนั้นแล้ว การ ตัดสินใจของเขาใน อนาคตอันใกล้นี้ จะเป็นตัวชี้ชัดทิศทางของ ทีมปีศาจแดงอย่างแน่นอน

เกาะติดวงการลูกหนังไทยและต่างประเทศ

Line @kickoff ได้ที่นี่

มาร์คัส แรชฟอร์ด ! อย่าปล่อยให้ถูกตราหน้าว่าเป็น “ดาวรุ่งตลอดกาล” เลย

ชื่อเสียง ลาภยศ เงินทองต่างๆ มันเย้ายวนใจเช่นเดียวกัน แรชฟอร์ด โตมากับความรักความอบอุ่นของแม่ก็จริง แต่ก็ไม่ได้สะดวกสบาย แม่ต้องทำงานสองกะเพื่อหาเงินมาจุนเจือเลี้ยงดู โดยเฉพาะค่าใช้จ่ายเรื่องอาหาร

อีกทั้งไม่นานมานี้เขาเขียนจดหมายถึง บอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีหลังจากที่เลิกช่วยเหลืออาหารกลางวันกับเด็กๆในช่วงโควิด-19 ระบาด เพื่อประหยัดงบประมาณ

สุดท้ายโครงการอาหารกลางวันกลับมาคืนมาอีกครั้ง แรชฟอร์ด จึงได้รับการยกย่องในคุณงามความดี ฐานะเป็นกระบอกเสียงคนสำคัญ

เขาได้รับเครื่องราชอิสริยาภรณ์ขั้น MBE จากบทบาททำประโยชน์ให้กับสังคมเหมือนซูเปอร์สตาร์รุ่นพี่อย่าง สตีเว่น เจอร์ราร์ด

แม้กระทั่งเดอะ ค็อป กองเชียร์ลิเวอร์พูลยังสดุดีวีรกรรมของ แรชฟอร์ด ในคราวนี้ด้วย มันเป็นเรื่องราวอันงดงามที่เกิดขึ้นในสังคม

หากจะให้ดียิ่งกว่าคือเรื่องราวนอกสนามควรจะสอดคล้องไปในทิศทางเดียวกับในสนาม

อย่างไรก็ดี แรชฟอร์ด เริ่มเจอเสียงวิจารณ์ว่าสมาธิอยู่กับเรื่องรณรงค์ช่วยเหลือเด็กๆมากเกินหน้าที่ เขาควรโฟกัสเรื่องฟุตบอล ซึ่งสำคัญกว่าสิ่งอื่นใดทั้งหมด

สิ่งที่ทำนั้นมันดีมากๆอยู่แล้ว ทุกคนยอมรับในความกล้าหาญและเสียสละ ชื่นชมคนที่ผ่านประสบการณ์ยากลำบากมาก่อน แล้วเมื่อโอกาสมาถึงก็พร้อมยื่นมือมาช่วยเหลือ

ไม่ใช่แค่เป็นกระบอกเสียง แรชชี่ ยังบริจาคเงินอีกนับแสนปอนด์เข้ากองทุนอาหารกลางวันเด็กๆ รวมทั้งให้ความช่วยเหลือพวกโฮมเลสหรือคนไร้บ้านอีกต่างหาก

เรียกว่าคืนให้สังคมอย่างเต็มที่และรู้รากเหง้าเข้าใจดีว่าตัวเองมาจากอะไร

ด้วยวัย 23 ย่าง 24 ถึงเวลาต้องเติบโตเป็นผู้ใหญ่ แม้ตัวเลขอายุจะไม่ได้มากอะไร แต่จากประสบการณ์ที่สะสมมาไม่น้อย บวกกับความคาดหวังที่แฟนบอลมีให้ในฐานะนักเตะจากอะคาเดมี่และเป็นเด็กท้องถิ่น

แต่อย่างที่เราเห็นกัน ผลงานนอกสนาม แรชชี่ ได้รับคำชื่นชมล้นหลาม แต่พอกลับมาในสนามยังต้องมีปรับปรุง รวมทั้งพิสูจน์ต่อไปอีกว่าคือของแท้ ไม่ใช่แค่ทำเหมือน

สไตล์การเล่นที่ต้องเปลี่ยนแปลง ทัศนคติบางอย่างที่ต้องจูน นั่นจะเป็นแรงผลักดันสำคัญนำไปสู่การเป็นซูเปอร์สตาร์ที่สมบูรณ์แบบได้

ไม่มีใครเถียงเรื่องความสามารถของเขา ปมมันอยู่ที่จะทำอย่างไรให้มันเกิดประสิทธิภาพมากสุดต่างหาก

เวลายังเหลือพอสำหรับการเปลี่ยนตัวเองในบางเรื่อง โลกนี้ไม่มีอะไรที่สมบูรณ์แบบก็จริง แต่ด้วยคุณสมบัติหลายอย่างที่มีอยู่ในตัว สามารถนำเขาไปใกล้จุดนั้นได้เลย

ที่สำคัญแฟนแมนฯยูไนเต็ดทุกคนพร้อมเอาใจช่วย อยากเห็น แรชชี่ ประสบความสำเร็จเต็มรูปแบบ

เกาะติดวงการลูกหนังไทยและต่างประเทศ

Line @kickoff69 ได้ที่นี่

เดอะแบกแห่งปี 2021 ! เราควรเลิกสงสัยหรือตั้งคำถามได้แล้วว่า บรูโน่ เจ๋งจริงหรือเปล่า

2 กุมภาพันธ์ปีก่อน บรูโน่ ประเดิมอย่างเป็นทางการในสีเสื้อของแมนฯยูไนเต็ดเป็นเกมลีกที่ดวลวูล์ฟแฮมป์ตัน

ช่วงแรกเขายืนตัวรุกคอยปั้นเกม ก่อนจะเปลี่ยนมาปักหลักเป็นมิดฟิลด์ตัวกลางหรือเบอร์ 6

ภาพรวมของเขาทำได้ดีมากๆ สามารถรับมือกับเกมที่หนักและเร็ว แต่ยังมีแฟนบอลบางส่วนมองไม่เห็น มีการตั้งคำถามว่าค่าตัวตั้งแพงเล่นได้ดาดๆแค่นี้เองหรือ

แต่หากใครได้รู้ความจริง บรูโน่ มาถึงแล้วแทบไม่มีเวลาปรับตัวอะไรทั้งสิ้น ลงซ้อมได้แค่วันเดียวก็ออกสตาร์ตในวันรุ่งขึ้น

เขายืนยันกับบอสเองว่าพร้อมเต็มที่ไม่มีปัญหา ทั้งสภาพร่างกายและความกระหายลงเล่น

ว่ากันว่า โซลชา พอใจทัศนคติเช่นนี้ของลูกทีมคนใหม่ๆมาก จากนั้นก็ส่งลงเล่นอย่างสม่ำเสมอและได้รับผลตอบแทนกลับมาที่คุ้มค่า

ไม่ใช่แค่ผลงานในสนามที่เปลี่ยนไป แต่บรรยากาศภายในทีมก็ดีขึ้น ทีมสปิริตแกร่งกว่าที่เคย ห้องแต่งตัวดูมีชีวิตชีวาอีกครั้ง

ส่วนหนึ่งมาจากการปลุกเร้าของ บรูโน่ ไม่ว่าจะการแสดงออกให้เพื่อนเห็นเป็นตัวอย่างยามอยู่ในสนามหรือกระตุ้นด้วยคำพูด

แม้บางทีพูดเยอะเกินไป จนเหมือนกลายเป็นตำหนิข้างเดียวกัน นำไปสู่การตอบโต้คืนทั้งเคส วิคตอร์ ลินเดอเลิฟ และ เนมานย่า มาติช แต่ล้วนเต็มไปด้วยเจตนาที่ดี ต้องการทำเพื่อทีมมากกว่าส่วนตัว

ที่สำคัญ บรูโน่ ไม่เก็บเอามาคิด จบแล้วก็จบกันไปในสนาม ความสัมพันธ์ข้างนอกยังเหมือนเดิม

เขาสามารถเคลียร์กับเพื่อน ทำความเข้าใจภายหลังได้ พร้อมทั้งยืนยันว่าไม่ได้ต้องการโทษใครเลย แต่บางครั้งสถานการณ์มันพาไปเอง

ทุกคนต่างยินดีที่ได้นักเตะคุณสมบัติเช่นนี้มาร่วมงานทั้งสิ้น

นักเตะทุกคนเกลียดความพ่ายแพ้เป็นเรื่องปกติ แต่สำหรับ บรูโน่ แล้วทีมแพ้ขึ้นมาจะเข้าขั้นผิดหวังขีดสุด จิตตกอยู่นานกว่าจะดึงตัวเองขึ้นมาได้

บางครั้งรู้สึกผิดบาปต้องโพสต์ระบายขอโทษแฟนบอล ซึ่งนั่นอีกทางออกที่พอช่วยปลดปล่อยความอัดอั้นได้บ้าง

เป้าหมายของ บรูโน่ คือในฤดูกาลนี้ต้องได้สัมผัสโทรฟี่กับแมนฯยูไนเต็ดสักใบหรืออย่างน้อยผ่านเข้าชิงบอลถ้วยสักรายการ เพราะผิดหวังมาตลอดในเกมตัดเชือกทั้ง 3 ครั้งหลังที่มีส่วนร่วม

จากผลงานในสนามและแพสชั่นที่ได้เห็น เราควรเลิกสงสัยหรือตั้งคำถามได้แล้วว่า บรูโน่ เจ๋งจริงหรือเปล่า เพราะเจอทีมใหญ่ทีไรมักจะหายเข้ากลีบเมฆ

ขนาดนี้แล้วต้องยกย่องมากกว่า เพราะถ้าไม่มี บรูโน่ จริงๆ ชะตากรรม โซลชา เวลานี้จะเป็นอย่างไรบ้างไม่รู้

บอกได้คำเดียวว่าแมนฯยูไนเต็ดโชคดีมากๆที่มีนักเตะชื่อ บรูโน่ แฟร์นันด์ส อยู่ในทีม

เกาะติดวงการลูกหนังไทยและต่างประเทศ

Line @kickoff69 ได้ที่นี่