จาก อารซาร์ ในวันนั้น ….

ถ้ามองย้อนกลับไป สัก 3-4 ปีที่แล้ว ถ้าถามว่า ใครกัน ที่จะมาแทนที่ 2 ซุปเปอร์สตาร์ ของวงการฟุตบอล อย่าง “เมซซี่่” และ “โรนัลโด้”

เชื่อว่า เพลเมกเกอร์ ชาวเบลเยี่ยม ต้อง มีชื่ออยู่ในนั้น อย่างแน่นอน

สมัยที่ ยังค้าแข้ง ให้กับ เชลซี นั้น เขาได้รับการขนานนามว่า

“ฝันร้ายของกองหลัง” เลยทีเดียว เขามี ความเร็ว และ ทักษะการเลี้ยงบอลที่สุดยอด แถมยังสามารถ สอดขึ้นมาทำประตูได้

แต่ ณ ปัจจุบัน เอแดน อาซาร์ ที่เล่นให้กับ รีลมาริด และเชลซี นั้น

ต่างกันจนแทบจะเป็นคนละคน เขาขาดความมั่นใจ เล่นบอลช้า เลี้ยง 1-1

แทบจะไม่ผ่านใคร ไม่ต้องพูดถึง การทำประตู แค่ให้เขาเล่นได้เต็ม 90 นาที

ก็แทบจะเป็นไปไม่ได้แล้ว เวลาส่วนใหญ่ ของเขาหมดไปกับการคุยกับ หมอ และ พยาบาล ซะส่วนใหญ่ อะไรคือสาเหตุ ที่ทำให้เขากลายเป็นแบบนี้ ?

“ฟิลิเป้ หลุยส์” อดีตกองหลังเพื่อนร่วมทีมของเขาสมัยเล่นให้กับเชลซี

ได้ให้สัมภาษณ์ไว้ว่า

“อาซาร์ และ เนย์มาร์ คือนักเตะที่ดีที่สุด ที่ผมเคยร่วมเล่นด้วย ทั้ง2อยู่ในระดับเดียวกับ เมสซี่ และ โรนัลโด้”

“อาซาร์เขา เป็นนักเตะที่พรสวรรค์สูงมากๆ แต่ขาดวินัย ถ้าเพียงแต่ เขามีความทะเยอทะยานและพูด ว่า ‘ฉันอยากเป็นนักเตะที่เก่งที่สุดในโลก’ ผมจะเชื่อเลยว่า เขาต้องทำได้อย่างแน่นอน “

“อัซปิลิกวยต้า” กัปตันทีมสิงบลู ก็ได้ให้ความเห็นว่า

“ตอนอยู่ที่เชลซี เขาแทบจะลงสนามทุกนัดที่ทีมมีเตะ และแสดงคุณภาพออกมา”

“เขามีความสม่ำเสมอ มากๆเสียดายที่ตอนนี้กับ รีล เขาแทบจะไม่ได้ลงสนามเลย”

ในวันที่ ราชันชุดขาวเปิด อาซาร์ ด้วยค่าตัวสูงถึง 100 ล้านยูโร

เขามีน้ำหนักเกินจาก มาตรฐานไปถึง 7-8 กิโลกรัม สื่อหลายๆสำนักต่าง

ลงความเห็นว่า เขา “อ้วน” เกินไป

จากทุกประเด็น ที่หยิบยกมานั้น จะเห็นได้อย่างชัดเจนว่าตัวของ อาร์ซาร์ นั้น มีแทบทุกอย่าง ที่นักฟุตบอล ทุกคนล้วนอยากจะมีแต่สิ่งที่ ตัวเขา นั้น

ไม่สู้คนอื่นคือ ความเป็นมืออาชีพ และไม่รู้ว่า รีลมาดริด จะอดทนรอเขา

ได้อีกนานแค่ไหน เพราะมีข่าวหนาหู เรื่องการขาย เขา สมทบทุนนำเข้า

เอม บาปเป้ ถ้าเกิดขึ้นจริง สถานีต่อไปของตัวเขาจะเป็นที่ไหน ก็ขอให้ตัว

เขานั้น คิดได้ว่านักฟุตบอล มีแค่พรสวรรค์ นั้น ไม่พอ ในส่วนนั้น

คริสเตียโน โรนัลโด้ได้ แสดงให้คนทั้งโลกได้เห็นไปแล้ว ผมเชื่อว่า ทุกคนก็

คงเอาใจช่วยให้ เขากลับมาโชว์ฟอร์มสุดยอดอีกครั้ง เพื่อมอบความสุข

ให้กับทุกคนที่รัก ในกีฬาฟุตบอล ได้มีนักกีฬา ระดับนี้ ไว้ชม กันต่อไปอย่างแน่นอน

 

เกาะติดวงการลูกหนังไทยและต่างประเทศ

Line @kickoff69 ได้ที่นี่

น้อง “เป้” ขึ้นแท่น อนาคตของวงการฟุตบอล ที่จะมาแทนที่ โรนัลโด้ เมซซี่

ก่อน อื่นต้องยอมรับก่อนเลย ว่า ถ้านึกถึง ฟุตบอล ในรอบ เกือบ 20ปีที่ผ่านมา ไม่ว่าจะ เป็นใครก็ต้อง รู้จัก คริสเตียโน่ โรนัลโด้ และ ลีโอเนล เมซซี่ 2 โคตรแข้งที่เป็นปรากฎการณ์มาอย่าง ยาวนาน

ไม่ว่าย้าย ไปอยู่ทีมไหน ทั้งลีคเติบโตขึ้นเรื่อง ภาพลักษณ์ ธุรกิจฐาน คนดู แฟนๆ เพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน ทำให้ไม่ว่าใครก็อยากได้ พวกเขา2คนไปร่วมทีม แต่กาลเวลา ผ่านไป พวกเขาทั้ง 2เริ่มโรยราไปตามอายุ

แต่วงการฟุตบอล ก็ยังไม่ อาจหาตัวแทนที่จะ แทนที่พวกเขา ทั้งสองคนได้เลย คนที่ดูจะใกล้เคียงที่สุด น่าจะเป็น เนย์มา ถ้าไม่ติดเรื่องที่ซุปเปอร์สตาร์ชาวแซมบ้าขาดวินัยนอกสนาม

การเล่นที่ห่างไกลคำว่า”ทีม”ทำให้ไม่ประสบความสำเร็จสักเท่าไร แต่ถ้านับจากฝีเท้าล้วนๆ ป่านนี้คงจะมาแทน2คนนี้ไปนานแล้ว

ต่างกับ เอมบาปเป้ ที่ดูจะเต็มที่กับฟุตบอลตลอดทุกนัด ที่ลงแข่ง และ มีถ้วยรางวัลติดไม้ติดมือ การันตีความสำเร็จ มามากมาย

บรรดา กูรู หลายๆคนก็ออกมาชม กันอย่างหนาหู ถึงดาวรุ่งมากพรสวรรค์ คนนี้ อย่างมาก

โจ โคล “การเอาชนะตัวประกบ การเล่นกับเพื่อนร่วมทีม ความขยันตอนที่ไม่ได้ ครองบอล เขาสุดยอดในทุกแง่มุม ปัจจุบันนี้ เขาเป็น 1 ในตัวชูโรง ของวงการฟุตบอลไปแล้ว”

เจมี่ คาราเกอร์ “ผมไม่ได้พูดเล่นนะ เขาเคยเกือบได้ย้ายมา อยู่กับลิเวอร์พูล แล้วสมัยยังค้าแข้งให้กับ โมนาโก”

“ถ้าจะนับทีมในพรีเมียร์ลีค ที่เหมาะสมกับเขาในเวลา นี้ เห็นจะมีแค่ ลิเวอร์พูล และ แมนเชสเตอร์ซิตี้เท่านั้น”

มีรายงานจากทางฝรั่งเศสว่า ปารีส แซงต์-แชร์กแมง ได้ยื่นสัญญาใหม่ให้กับ คิลิยัน เอ็มบัปเป้หัวหอกมหากาฬเป็นเวลา4ปีนักเตะได้พิจารณาข้อเสนอดังกล่าวมาหลายเดือนแล้วแต่ยังไม่ตอบรับแต่อย่างใด

ซึ่งแข้งวัย 22 ปีกำลังถูกถามถึงเรื่องอนาคต กันอย่างต่อเนื่องเพราะตัวเขาเหลือสัญยาอยู่ถึงปี 2022 เท่านั้น

บรรดาทีมยักษ์ใหญ่ได้ เช่น แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แมนซิตี้ ลิเวอร์พูล และ รีลมาดริด ต่างอยากได้ตัวเขาไปร่วมทีมกันหมด

เชื่อได้เลยว่า การย้ายทีมของ เขาจะเป็นข่าวใหญ่ในวงการฟุตบอลอย่างแน่นอน

 

เกาะติดวงการลูกหนังไทยและต่างประเทศ

Line @kickoff69 ได้ที่นี่

เอแดน อาซาร์ กับทางเดิน ที่เลือกไว้แล้ว

ไม่ผิดนักหากจะพูดว่า อาซาร์ คือตัวแทน คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ซูเปอร์ฮีโร่คนเดิม ที่เผ่นไปยูเวนตุสแบบปุบปับตั้งแต่ปี 2018

ฟลอเรนติโน่ เปเรซ ประธานสโมสรมั่นใจในตัวปีกเบลเจี้ยนมากๆ ไม่ใช่แค่ฟอร์มจะเปรี้ยงปร้างเท่านั้น แต่ยังจะปั้นให้ขึ้นสู่ตำแหน่งดาวดวงใหม่ด้วย

อาซาร์ อาจมีลีลาคล้ายกับ โรนัลโด้ แต่ปัจจัยสำคัญอื่นๆผิดกันลิบลับ โดยเฉพาะเรื่องของวินัยและความเคร่งครัดในการดูแลตัวเอ

หลายครั้งที่เราได้เห็นเขาอยู่ในสภาพอ้วนฉุ ปล่อยน้ำหนักพุ่งพรวดเกินมาตรฐานนักเตะอาชีพ เหตุมาจากการกินแบบตามใจปาก

ไม่ใช่แค่อาหารเท่านั้นที่เลือกผิดหลักโภชนาการ แต่ยังนิยมดื่มอีกต่างหาก ต่อให้พรสวรรค์เหนือชั้นแค่ไหน ก็ยากที่จะไปได้สุดตามที่ตั้งเป้าเอาไว้

สมัยอยู่เชลซียังหนุ่มแน่น ร่างกายแข็งแรงไม่ค่อยบาดเจ็บให้มาต้องซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอผุพังกันเท่าไรนัก

ล่าสุดสื่อสายมาดริดและแฟนบอลตั้งคำถามแล้ว ตกลงเกิดอะไรขึ้นกับ อาซาร์ กันแน่?

นับถึงตรงนี้ อาซาร์ สวมยูนิฟอร์มสีขาวของมาดริดครบ 18 เดือนแล้ว ลองไปเทียบตัวเลขต่างกับ เบล ในช่วงเวลาเดียวกันดู เผื่อจะฉายภาพต่างๆได้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น

อาซาร์ ลงเล่นไปแล้ว 31 นัดทุกรายการ ทำไปได้เพียง 3 ประตูกับอีก 7 แอสซิสต์ จากจำนวน 1,964 นาที โดยที่คว้าแชมป์สแปนิช ซูเปอร์คัพกับลาลีกามาครอง ซึ่งไม่ได้มีส่วนร่วมเท่าไรเลย

ส่วน 18 เดือนของ เบล ลงสนามแบบเต็มเม็ดเต็มหน่วย พัฒนาฝีเท้าและพิสูจน์จนเป็นตัวหลัก โม่แข้งทั้งสิ้น 69 เกม ซัดไปถึง 34 ประตู 24 แอสซิสต์ใน 5,453 นาที

เขาครองแชมป์สแปนิช ซูเปอร์คัพ ยิงประตูสำคัญให้มาดริดผงาดยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก อีกทั้งได้ยูโรเปี้ยน ซูเปอร์คัพอีกด้วย

ความจริงแล้วในช่วงปีครึ่ง อาซาร์ ควรจะรับใช้มาดริด 75 เกม ไม่ใช่เพิ่งลงเพียงแค่ 31 แถมถูกเปลี่ยนตัวออกหรือเป็นสำรองหลายนัดมาก

มาร์ซิน บุลก้า ผู้รักษาประตูชาวโปแลนด์ ซึ่งเคยเล่นในระดับเยาวชนให้เชลซีและเคยเห็นพฤติกรรมต่างของ อาซาร์ เล่าให้ฟังเป็นฉากๆเลยว่า

“เขาชอบจั๊งก์ฟู้ดอย่างแฮมเบอร์เกอร์หรือว่าพิซซ่ามากๆ นั่นคือความสุขของเขาเลยล่ะ เขาไม่แคร์อะไรนอกจากอาหารและฟุตบอล”

เรื่องนี้หากไปถาม อาซาร์ ไม่เคยเถียงเลย รวมทั้งยักไหล่ไม่ใส่ใจอีกต่างหาก เมื่อกลับมารายงานตัวแล้วน้ำหนักทะยานอย่างไม่สมควร

“ใช่มันเป็นเรื่องจริง แต่สำหรับผมแล้ว วันหยุดก็คือวันหยุด”

เราพอจะพูดได้เกี่ยวกับวิถีความเป็นมืออาชีพของ อาซาร์ ไม่มากพอสำหรับการไปสู่จุดพีกเหมือนอย่างนักเตะบางคน

แต่หากเคยให้สัมภาษณ์ไว้ในทำนองนี้ ย่อมหมายความว่าเขาต้องเลือกทางเดินไว้แล้ว นี่คงเป็นสิ่งที่ต้องการ

อาซาร์ เองรู้ดีว่าถ้าเคร่งครัดแบบ โรนัลโด้ ซ้อมอย่างหนัก ดูแลร่างกายตัวเองอย่างดีทุกวินาที โอกาสจะเป็นซูเปอร์สตาร์เบอร์ต้นๆของโลกย่อมมีสูง

บางทีนั่นอาจไม่ใช่เป้าหมายหรือสิ่งที่เขาต้องการมากสุดก็ได้

เกาะติดวงการลูกหนังไทยและต่างประเทศ

Line @kickoff69 ได้ที่นี่