มาร์คัส แรชฟอร์ด ! อย่าปล่อยให้ถูกตราหน้าว่าเป็น “ดาวรุ่งตลอดกาล” เลย

ชื่อเสียง ลาภยศ เงินทองต่างๆ มันเย้ายวนใจเช่นเดียวกัน แรชฟอร์ด โตมากับความรักความอบอุ่นของแม่ก็จริง แต่ก็ไม่ได้สะดวกสบาย แม่ต้องทำงานสองกะเพื่อหาเงินมาจุนเจือเลี้ยงดู โดยเฉพาะค่าใช้จ่ายเรื่องอาหาร

อีกทั้งไม่นานมานี้เขาเขียนจดหมายถึง บอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีหลังจากที่เลิกช่วยเหลืออาหารกลางวันกับเด็กๆในช่วงโควิด-19 ระบาด เพื่อประหยัดงบประมาณ

สุดท้ายโครงการอาหารกลางวันกลับมาคืนมาอีกครั้ง แรชฟอร์ด จึงได้รับการยกย่องในคุณงามความดี ฐานะเป็นกระบอกเสียงคนสำคัญ

เขาได้รับเครื่องราชอิสริยาภรณ์ขั้น MBE จากบทบาททำประโยชน์ให้กับสังคมเหมือนซูเปอร์สตาร์รุ่นพี่อย่าง สตีเว่น เจอร์ราร์ด

แม้กระทั่งเดอะ ค็อป กองเชียร์ลิเวอร์พูลยังสดุดีวีรกรรมของ แรชฟอร์ด ในคราวนี้ด้วย มันเป็นเรื่องราวอันงดงามที่เกิดขึ้นในสังคม

หากจะให้ดียิ่งกว่าคือเรื่องราวนอกสนามควรจะสอดคล้องไปในทิศทางเดียวกับในสนาม

อย่างไรก็ดี แรชฟอร์ด เริ่มเจอเสียงวิจารณ์ว่าสมาธิอยู่กับเรื่องรณรงค์ช่วยเหลือเด็กๆมากเกินหน้าที่ เขาควรโฟกัสเรื่องฟุตบอล ซึ่งสำคัญกว่าสิ่งอื่นใดทั้งหมด

สิ่งที่ทำนั้นมันดีมากๆอยู่แล้ว ทุกคนยอมรับในความกล้าหาญและเสียสละ ชื่นชมคนที่ผ่านประสบการณ์ยากลำบากมาก่อน แล้วเมื่อโอกาสมาถึงก็พร้อมยื่นมือมาช่วยเหลือ

ไม่ใช่แค่เป็นกระบอกเสียง แรชชี่ ยังบริจาคเงินอีกนับแสนปอนด์เข้ากองทุนอาหารกลางวันเด็กๆ รวมทั้งให้ความช่วยเหลือพวกโฮมเลสหรือคนไร้บ้านอีกต่างหาก

เรียกว่าคืนให้สังคมอย่างเต็มที่และรู้รากเหง้าเข้าใจดีว่าตัวเองมาจากอะไร

ด้วยวัย 23 ย่าง 24 ถึงเวลาต้องเติบโตเป็นผู้ใหญ่ แม้ตัวเลขอายุจะไม่ได้มากอะไร แต่จากประสบการณ์ที่สะสมมาไม่น้อย บวกกับความคาดหวังที่แฟนบอลมีให้ในฐานะนักเตะจากอะคาเดมี่และเป็นเด็กท้องถิ่น

แต่อย่างที่เราเห็นกัน ผลงานนอกสนาม แรชชี่ ได้รับคำชื่นชมล้นหลาม แต่พอกลับมาในสนามยังต้องมีปรับปรุง รวมทั้งพิสูจน์ต่อไปอีกว่าคือของแท้ ไม่ใช่แค่ทำเหมือน

สไตล์การเล่นที่ต้องเปลี่ยนแปลง ทัศนคติบางอย่างที่ต้องจูน นั่นจะเป็นแรงผลักดันสำคัญนำไปสู่การเป็นซูเปอร์สตาร์ที่สมบูรณ์แบบได้

ไม่มีใครเถียงเรื่องความสามารถของเขา ปมมันอยู่ที่จะทำอย่างไรให้มันเกิดประสิทธิภาพมากสุดต่างหาก

เวลายังเหลือพอสำหรับการเปลี่ยนตัวเองในบางเรื่อง โลกนี้ไม่มีอะไรที่สมบูรณ์แบบก็จริง แต่ด้วยคุณสมบัติหลายอย่างที่มีอยู่ในตัว สามารถนำเขาไปใกล้จุดนั้นได้เลย

ที่สำคัญแฟนแมนฯยูไนเต็ดทุกคนพร้อมเอาใจช่วย อยากเห็น แรชชี่ ประสบความสำเร็จเต็มรูปแบบ

เกาะติดวงการลูกหนังไทยและต่างประเทศ

Line @kickoff69 ได้ที่นี่

เดอะแบกแห่งปี 2021 ! เราควรเลิกสงสัยหรือตั้งคำถามได้แล้วว่า บรูโน่ เจ๋งจริงหรือเปล่า

2 กุมภาพันธ์ปีก่อน บรูโน่ ประเดิมอย่างเป็นทางการในสีเสื้อของแมนฯยูไนเต็ดเป็นเกมลีกที่ดวลวูล์ฟแฮมป์ตัน

ช่วงแรกเขายืนตัวรุกคอยปั้นเกม ก่อนจะเปลี่ยนมาปักหลักเป็นมิดฟิลด์ตัวกลางหรือเบอร์ 6

ภาพรวมของเขาทำได้ดีมากๆ สามารถรับมือกับเกมที่หนักและเร็ว แต่ยังมีแฟนบอลบางส่วนมองไม่เห็น มีการตั้งคำถามว่าค่าตัวตั้งแพงเล่นได้ดาดๆแค่นี้เองหรือ

แต่หากใครได้รู้ความจริง บรูโน่ มาถึงแล้วแทบไม่มีเวลาปรับตัวอะไรทั้งสิ้น ลงซ้อมได้แค่วันเดียวก็ออกสตาร์ตในวันรุ่งขึ้น

เขายืนยันกับบอสเองว่าพร้อมเต็มที่ไม่มีปัญหา ทั้งสภาพร่างกายและความกระหายลงเล่น

ว่ากันว่า โซลชา พอใจทัศนคติเช่นนี้ของลูกทีมคนใหม่ๆมาก จากนั้นก็ส่งลงเล่นอย่างสม่ำเสมอและได้รับผลตอบแทนกลับมาที่คุ้มค่า

ไม่ใช่แค่ผลงานในสนามที่เปลี่ยนไป แต่บรรยากาศภายในทีมก็ดีขึ้น ทีมสปิริตแกร่งกว่าที่เคย ห้องแต่งตัวดูมีชีวิตชีวาอีกครั้ง

ส่วนหนึ่งมาจากการปลุกเร้าของ บรูโน่ ไม่ว่าจะการแสดงออกให้เพื่อนเห็นเป็นตัวอย่างยามอยู่ในสนามหรือกระตุ้นด้วยคำพูด

แม้บางทีพูดเยอะเกินไป จนเหมือนกลายเป็นตำหนิข้างเดียวกัน นำไปสู่การตอบโต้คืนทั้งเคส วิคตอร์ ลินเดอเลิฟ และ เนมานย่า มาติช แต่ล้วนเต็มไปด้วยเจตนาที่ดี ต้องการทำเพื่อทีมมากกว่าส่วนตัว

ที่สำคัญ บรูโน่ ไม่เก็บเอามาคิด จบแล้วก็จบกันไปในสนาม ความสัมพันธ์ข้างนอกยังเหมือนเดิม

เขาสามารถเคลียร์กับเพื่อน ทำความเข้าใจภายหลังได้ พร้อมทั้งยืนยันว่าไม่ได้ต้องการโทษใครเลย แต่บางครั้งสถานการณ์มันพาไปเอง

ทุกคนต่างยินดีที่ได้นักเตะคุณสมบัติเช่นนี้มาร่วมงานทั้งสิ้น

นักเตะทุกคนเกลียดความพ่ายแพ้เป็นเรื่องปกติ แต่สำหรับ บรูโน่ แล้วทีมแพ้ขึ้นมาจะเข้าขั้นผิดหวังขีดสุด จิตตกอยู่นานกว่าจะดึงตัวเองขึ้นมาได้

บางครั้งรู้สึกผิดบาปต้องโพสต์ระบายขอโทษแฟนบอล ซึ่งนั่นอีกทางออกที่พอช่วยปลดปล่อยความอัดอั้นได้บ้าง

เป้าหมายของ บรูโน่ คือในฤดูกาลนี้ต้องได้สัมผัสโทรฟี่กับแมนฯยูไนเต็ดสักใบหรืออย่างน้อยผ่านเข้าชิงบอลถ้วยสักรายการ เพราะผิดหวังมาตลอดในเกมตัดเชือกทั้ง 3 ครั้งหลังที่มีส่วนร่วม

จากผลงานในสนามและแพสชั่นที่ได้เห็น เราควรเลิกสงสัยหรือตั้งคำถามได้แล้วว่า บรูโน่ เจ๋งจริงหรือเปล่า เพราะเจอทีมใหญ่ทีไรมักจะหายเข้ากลีบเมฆ

ขนาดนี้แล้วต้องยกย่องมากกว่า เพราะถ้าไม่มี บรูโน่ จริงๆ ชะตากรรม โซลชา เวลานี้จะเป็นอย่างไรบ้างไม่รู้

บอกได้คำเดียวว่าแมนฯยูไนเต็ดโชคดีมากๆที่มีนักเตะชื่อ บรูโน่ แฟร์นันด์ส อยู่ในทีม

เกาะติดวงการลูกหนังไทยและต่างประเทศ

Line @kickoff69 ได้ที่นี่

ป็อกบูม ! ป็อกบา คืนฟอร์มร่างเทพ แต่จะดีพอช่วยทัพ ปีศาจแดง คว้าแชมป์หรือเปล่า

ในช่วงรอบปีที่ผ่านมา ชื่อของบรูโน่ แฟร์นันด์ส ถูกพูดถึงเป็นอย่างมากในฐานะคีย์แมนของ “ปีศาจแดง” ที่จะขาดไปไม่ได้เลย

แน่นอนฟอร์มของดาวเตะทีมชาติโปรตุกีสร้อนแรงถึงขั้นที่แฟนบอลแมนฯ ยูไนเต็ด ไม่จำเป็นต้องง้อห้องเครื่องชาวฝรั่งเศสอีกต่อไป

แล้วยิ่งช่วงที่ ป็อกบา หลุดไปเป็นตัวสำรอง เฟร็ด กับ สก็อตต์ แม็คโทมิเนย์ ก็ทำผลงานได้ดีเหลือเกิน

ด้วยเหตุนี้เอง เจ้าของค่าตัว 89 ล้านปอนด์จึงเริ่มหมดความหมายกับ ยูไนเต็ด ไปเรื่อย ๆ

อย่างไรก็ตาม โอเล่ กุนนาร์ โซลชา ยังคงมีความไว้เนื้อเชื่อใจในตัวป็อกบาอยู่เหมือนเดิม

โซลชา พร้อมให้โอกาสเสมอ หากร่างกายของเขาฟิตสมบูรณ์เต็มร้อย หลังจำเป็นต้องเรียกความฟิตรอบใหม่เนื่องจากติดโควิด-19

ซึ่งการคัมแบ็คทีมตัวจริงรอบล่าสุด ป็อกบา ได้งัดร่างเทพของเขากลับมาด้วย มันจึงเป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้แมนฯ ยูไนเต็ด เก็บแต้มเป็นกอบเป็นกำและยืนระยะเป็นจ่าฝูงมาได้จนถึงตอนนี้

แม้ปัจจุบัน ป็อกบา จะเหลือสัญญาในถิ่นโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ถึงแค่ซัมเมอร์นี้เท่านั้น แต่ดูเหมือนว่าเจ้าตัวจะโฟกัสช่วยทีมเป็นอันดับแรก

การที่ ป็อกบา กลับมาตั้งใจเล่นเพื่อทีม มันส่งผลอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะเรื่องของสปิริตภายในทีมที่ดูกระหายความสำเร็จกันมากขึ้น

ดังนั้นการต่อสัญญากับ ป็อกบา มันน่าจะเป็นเรื่องดีกว่าการที่จะยอมเสียกองกลางคลาสเหลือแดกรายนี้ออกไปอย่างแน่นอน

พูดถึงเรื่องค่าเหนื่อยตอนนี้ ป็อกบา รับอยู่สัปดาห์ละ 2.9 แสนปอนด์ เชื่อเลยว่าหากสโมสรยอมอัพเพิ่มให้เป็น 3.5-4 แสนปอนด์ต่อสัปดาห์

ดาวเตะวัย 27 ปีน่าจะเลือกอยู่ต่อ ด้วยจำนวนค่าเหนื่อยที่สมเหตุสมผลในยุคไวรัสระบาด ซึ่งเป็นตัวเลขที่ทีมอื่นคงไม่กล้ายื่นให้มากกกว่านี้

แล้วยิ่งแมนฯ ยูไนเต็ด สถาปนาเป็นทีมลุ้นแชมป์เต็มตัวแบบนี้ด้วยแล้ว มันยิ่งดึงดูดใจให้อยู่ต่อ ต่างจากปีก่อน ๆ ที่อยู่เล่นไปวัน ๆ

แต่สุดท้ายแล้ว หาก ป็อกบา เลือกที่จะไม่ต่อ ยูไนเต็ด ก็คงต้องใช้เงื่อนไขพิเศษ เพื่อขยายสัญญาออกไป 1 ปี

โดยระหว่างนั้นก็ต้องหาทางขายให้ได้ราคา แต่ถ้าแย่ไปกว่านั้นก็คือเสียฟรีไปเลย แน่นอนนี่คงไม่ใช่ทางเลือกที่แฟนผีแดงอยากให้เกิดขึ้น

สิ่งที่แฟนผีแดงอยากให้เกิดขึ้นก็คือจบซีซั่นนี้พวกเขาขอมีโทรฟี่ประดับสโมสรสักถ้วย และมันจะฟินยิ่งขึ้นหากถ้วยใบนั้นคือถ้วยพรีเมียร์ลีกในรอบ 8 ปี

สาเหตุที่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กลับมาโชว์ฟอร์มเก่งได้อีกครั้ง ต้องยอมรับว่าการคืนร่างเทพของปอล ป็อกบา คือหนึ่งในปัจจัยสำคัญจริง ๆ

 

เกาะติดวงการลูกหนังไทยและต่างประเทศ

Line @kickoff69 ได้ที่นี่