ทำไม ? ฟานไดค์ ถึงสำคัญกับ หงส์แดงในยุคของ ” คล็อป “

ก่อนอื่น ต้อง ขอยอมรับก่อนว่า ฟุตบอลในยุค ปัจจุบันนี้ ถ้าถาม ใครคือกองหลัง ที่เก่งที่สุดในโลก คงต้องมี ชื่อ ของ” ฟานไดค์ ” อยู่อย่างแน่นอน ซึ่งเป็นเรื่องโชคร้ายอย่างที่สุด ที่ ทีมหงส์แดงต้องมาเสีย

เขาไป ตั้งแต่พึ่งเริ่มฤดูกาลอย่างรวดเร็ว จากการปะทะ กับ จอร์แดน พิคฟอร์ด ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เจอกับ เอฟเวอตัน และนับตั้งแต่

ที่เขาบาดเจ็บยาวไปนั้น ทีมหงส์แดง ลิเวอร์พูลก็ไม่สามารถที่จะขยับแต้ม ขึ้นมา อยู่ในกลุ่มไล่ล่าแชมป์ ในฤดูกาลนี้ได้เลย

เพราะ ตัวเขานั้น มีพร้อม ทั้งความแข็งแกร่ง ความเร็ว ลูกกลางอากาศ และ เซนส์ การจ่ายบอลที่ดี รวมถึงการ อ่านจังหวะกระแสของเกม และนี่คือสาเหตุ ที่ หงส์แดง ลิเวอร์พูล

ในยุคของ เจอเก้น คล็อป จะขาดเขาในทีมไปไม่ได้

1. การมีอยู่ของเขา ทำให้แผงหลัง กล้าที่จะดันขึ้นสูง เพราะ ขอบเขตการป้องกัน ที่กว้างของเขา ต่อให้โดนเล่นเกมสวนกลับ ก็สามารถที่จะ วิ่งกลับมาป้องกันได้ทัน

2. การวางบอลจากแนวลึกให้ ปีกสองข้าง ทำเกมรุก ฟานไดจ์ นั้น มีการเปอร์เซนต์ การวางบอลที่แม่นยำ มากถ้าเทียบกับกองหลัง คนอื่นๆ ดังนั้น

จะเห็นได้อยุ่บ่อยครั้ง ที่ลิเวอร์พูล จะขึ้นเกมจากเขา

3. คอยซ็อน ฟูลแบ๊ค สองข้าง ทำให้ ฟูลแบ๊ค อย่าง อเล็กซานเดอร์ อาร์โนล และ โรเบิร์ตสัน สามารถทำหน้าที่ ตัวเองได้ เพราะต่อให้ คู่แข่งใช้

ผู้เล่นปีกความเร็วสูงเจาะ ทางฟูลแบ๊ค ที่เติมเกมรุก วานไดจ์ ก็สามารถที่จะ 1-1 หยุดพวกเขาได้

4. คอยป้อง กันลูกกลางอากาศให้กับทีม และทำประตู จากลูกเตะมุม จะเห็นได้ชัดๆ เลยว่า ปัจจุบันนี้จากการบาดเจ็บ ของเขา ทุกทีมที่เจอ กับ หงส์แดงตอนนี้ ต่างพากัน ใช้ลูกกลางอากาศโจมตี เขาแทบจะ

ทุกทีมที่เจอ และ จากการบาดเจ็บของเขา ก็ทำให้หงส์แดง ณ ตอนนี้ไม่เหมือนทีม แชมป์เก่า อีกต่อไป เชื่อว่า แฟนหงส์แดงทุกคน คงคิดถึง วันที่ เขา กลับมา ร่วม ไล่ล่าแชมป์ มาให้แฟนๆได้เชยชมอย่าง

แน่นอน

เกาะติดวงการลูกหนังไทยและต่างประเทศ

Line @kickoff ได้ที่นี่

เอดินสัน คาวานี่ ! ทุกอย่างที่ผ่านการพิสูจน์เรียบร้อย

เอดินสัน คาวานี่ ย้ายมาแมนฯยูไนเต็ดก่อนเส้นตายตลาดซื้อขายนักเตะซัมเมอร์ไม่กี่ชั่วโมง

สัญญา 1 ปีพ่วงด้วยอ็อปชั่นอีก 1 ปี ถือว่าสมเหตุสมผลกับนักเตะวัย 33 ย่าง 34 ปี

ข้อดีคือแมนฯยูไนเต็ดไม่ต้องจ่ายสักเพนนีเดียวให้กับปารีส แซงต์ แชร์กแมงเพื่อเป็นค่าตัวของ คาวานี่

แม้จะต้องควักค่าดำเนินการหรือเรียกว่าค่าน้ำร้อนน้ำชาให้กับ วอลเตอร์ กูกลีเอลโมเน่ เอเยนต์นักเตะซึ่งมีศักดิ์เป็นพี่ชายแท้ๆก็ตาม ยังไงก็ถือว่าคุ้ม

คาวานี่ เหมือนกับ เบล นั่นแหล่ะ พกเอาสภาพร่างกายไม่สมบูรณ์ติดมาด้วย หลังบาดเจ็บและแทบร้างสนามไม่ได้ลงเล่นให้เปแอสเชอย่างต่อเนื่อง

ครั้งสุดท้ายที่ลงต้องย้อนไปยัง 11 มีนาคมในเกมยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีกดวลกับโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ จากนั้นก็ไม่เคยสัมผัสเกมอีกเลย

อย่างไรก็ดีก่อนเซ็นกับปีศาจแดง คาวานี่ พยายามรักษาร่างกายเรียกความฟิตตลอด เมื่อถึงเวลาจะได้พร้อมอย่างเต็มที่ไม่ต้องมารื้อฟื้นกันใหม่

ช่วงแรกจึงยังไม่ได้รับความไว้วางใจจาก โอเล่ กุนนาร์ โซลชา ซึ่งอธิบายไว้ว่าต้องการให้ร่างกายลงตัว ไม่อย่างนั้นอาจเสี่ยงต่ออาการบาดเจ็บซ้ำได้อีก

กว่าที่ คาวานี่ จะประเดิมต้องรอถึง 24 ตุลาคม ลงมาเป็นตัวสำรองแทน แดน เจมส์ ในช่วงครึ่งชั่วโมงสุดท้ายเกมลีกเสมอเชลซีแบบโนสกอร์ ซึ่งยังไม่ได้แผลงฤทธิ์อะไรนัก

แต่สิ่งที่ คาวานี่ สร้างความประทับใจมากๆคือช่วงฝึกซ้อม เปิดเผยให้เห็นความเป็นมืออาชีพเต็มเปี่ยม

ใครที่ไม่เคยรู้จักตัวตนหรือสัมผัสมาก่อน อาจเตลิดคิดไปว่า คาวานี่ ย่อมเหมือนกับแข้งอเมริกาใต้ทั่วไป ฝีเท้าไม่เป็นที่สงสัย แต่อารมณ์ศิลปิน มักทำตามใจตัวเอง ไม่ค่อยเน้นการทำงานหนัก เพราะคิดว่ามีพรสวรรค์คอยสนับสนุน

ทว่าตรงกันข้ามอย่างสิ้นเชิง คาวานี่ มุ่งมั่นและทำงานอย่างหนัก ไม่เคยแสดงอาการเหยาะแหยะ รวมทั้งคิดว่าตัวเองเป็นซูเปอร์สตาร์เลย

นอกจากนั้นยังใส่ใจทุกอย่าง ตั้งแต่เรื่องใหญ่ไล่ไปจนถึงสิ่งที่ทุกคนคิดว่าเล็กน้อย

ขนาดอาหารที่สโมสรจัดให้ซึ่งถูกหลักตามโภชนาการอยู่แล้ว กินได้ตามสะดวก แต่เขายังพิถีพิถัน ไม่ใช่ก้มหน้าก้มตาสวาปาม

พฤติกรรมเหล่านี้อยู่ในสายตาของ โซลชา และทีมงานมาตลอด ส่วนเพื่อนร่วมทีมก็รู้สึกดีเช่นกัน เพราะ คาวานี่ ยังคอยสอนน้องๆทุกคน พวกแข้งตัวรุกจะได้รับคำแนะนำที่ดี

ประสบการณ์และความเป็นมืออาชีพ คือจุดแข็งช่วยให้ คาวานี่ ยืนหยัดในจุดนี้ได้ ซึ่งมันไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับนักเตะที่อายุมากขึ้นทุกวัน

โซลชา ชื่นชมในตัวแข้งอุรุกวัยหลายอย่าง แม้กระทั่งการวิ่งไล่บอลกดดันฝั่งตรงข้าม ก็ล้วนแต่โชว์ให้รู้เลยว่าแพสชั่นแค่ไหน ไม่ใช่ว่าย้ายมาเพื่อโกยเงินในช่วงท้ายของอาชีพ

ไม่ใช่เรื่องแปลกเลยหากสโมสรจะตัดสินใจใช้อ็อปชั่นขยายสัญญาอีก 1 ปี ทุกอย่างเหมาะสม ไม่มีเหตุผลอะไรต้องมาค้างคากังขาน่าสงสัย

ตอนย้ายมาเขาอาจดูเหมือนว่าเป็นดีล panic buy ซื้อเพราะไม่ได้ใครแล้ว ล้มเหลวในการเจรจากับ เจดอน ซานโช่ เลยต้องรีบหาใครสักคนมาเสริม ไม่อย่างนั้นบอร์ดโดนถล่ม

ทุกอย่างผ่านการพิสูจน์เรียบร้อย สำหรับ คาวานี่ ไม่มีอะไรให้เคลือบแคลงกันอีก ของฟรีมีคุณภาพนานๆทีถึงตกมายังแมนฯยูไนเต็ดกันบ้าง

จิ๊กซอว์ที่หายไป ! “มาร์ติน โอเดการ์ด” บุรุษผู้มาเติมเต็มส่วนที่ขาดของทัพ ปืนใหญ่ อาร์เซน่อล (พร้อมบทสัมภาษณ์)

แม้ว่าในช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมาเราจะได้เห็นการมาของดีลใหญ่อย่างโธมัส ปาร์เตย์ หรือแม้แต่การก้าวขึ้นมาแก้ปัญหาในภาวะฉุกเฉินของเอมิล สมิธ โรว์ ที่พอจะทำให้แฟนปืนใจชื่นกันได้บ้าง แต่มันก็ยังคงมีบางอย่างติดค้างคาใจ เหมือนยังขาดอะไรอยู่

ความสงสัยนั้นเริ่มชัดขึ้นเรื่อยๆ เมื่อเวลาล่วงเลยมาถึงช่วงปีใหม่ ดูเหมือนว่าอาร์เซน่อลยังคงขาดนักเตะที่เป็นกองกลางตัวสร้างสรรค์เกมหรือเพลเมกเกอร์ที่มีความเฉียบคมในการผ่านบอลเข้าสู่พื้นที่สุดท้ายอยู่

นี่แหละคือเวลาที่เหมาะสมที่สุดที่พระเอกของเราจะปรากฏตัว

ด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ส่งผลกระทบต่อสภาพคล่องทางการเงินของอาร์เซน่อล ทำให้พวกเขาไม่ได้มีตัวเลือกมาก การจะลงไปลุยตลาดซื้อขายแบบป๋าคงไม่ได้เห็นแน่นอน ตัดออกไปเลย

ทว่า สโมสรกลับสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและรวดเร็วในการปิดดีล “มาร์ติน โอเดการ์ด” มาร่วมทีมด้วยสัญญายืมตัวระยะสั้น 6 เดือนด้วยค่ายืม 2.5 ล้านปอนด์ ตัดหน้าเรอัล โซเซียดัดที่อยากจะดึงเข้าไปร่วมงานอีกครั้งไปแบบหน้าตาเฉย จากความต้องการของนักเตะเองอยากจะมาเก็บประสบการณ์ในเกาะอังกฤษและช่วยทีมดังจากลอนดอนเหนือในช่วงเวลาที่เหลือของฤดูกาล

บทสัมภาษณ์แรกของมาร์ติน โอเดการ์ด

โอเดการ์ด เปิดเผยว่าการพูดคุยกับ อาร์เตต้า กลายเป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้เขาตัดสินใจย้ายมาอยู่กับ อาร์เซน่อล

“ผมได้คุยกับเขาก่อนย้ายมาที่นี่, แน่นอน นั่นเป็นเรื่องสำคัญมากสำหรับผมและเขาดูเป็นผู้จัดการทีมชั้นยอดนะ ผมชอบไอเดียของเขา, การมองเกมฟุตบอลของเขาและการปฏิบัติตัวของเขาด้วย” โอเดการ์ด บอกกับเว็บไซต์สโมสร

“เขาทำให้ผมรู้สึกยอดเยี่ยมและนั่นเป็นเรื่องสำคัญต่อการย้ายมาที่นี่ เขาเป็นกุญแจสำคัญเลยล่ะ”

“ผมว่าทุกครั้งที่คุณย้ายไปอยู่กับสโมสรใหม่ คุณอยากจะแน่ใจว่าจะรู้สึกดีและมีแผนวางเอาไว้ แต่ผมว่าทุกสิ่งที่ดีดูดีนะ”

“วันก่อน ดานี่ ส่งข้อความมาหาผมและเขาพูดถึงแต่สิ่งดีๆของสโมสร, ผู้จัดการทีมและทุกๆอย่าง”

“นั่นเป็นสิ่งสำคัญสำหรับผมเหมือนกันและเขาก็แฮปปี้ที่ผมย้ายมาที่นี่ ดังนั้นนั่นเป็นสิ่งที่ดีสำหรับผมนะ มีคนรู้จักอยู่ที่นี่และได้ยินจากคนที่อยู่ภายในสโมสร เป็นเรื่องที่ดีนะ”

“การมาเล่นในพรีเมียร์ลีกเป็นความฝันเสมอล่ะ และผมก็ชอบสไตล์การเล่นของ อาร์เซน่อล ด้วย สำหรับผมแล้ว เชสก์ ฟาเบรกัส คือหนึ่งในไอดอลเลย”

“ผมเคยมาทดสอบฝีเท้ากับอาร์เซนอลตอนอายุ 15 และได้คุยกันหลายเรื่อง ผมมีความรู้สึกดีที่กับการอยู่ที่นะ และผมก็คิดแต่เรื่องฟุตบอลเท่านั้น สุดท้ายผมอาจไม่ได้เลือกที่จะอยู่ที่นี่ แต่ผมก็มีช่วงเวลาที่ดี และจำมันได้เลยแหละ”

“ครั้งแรกที่ผมมายังสโมสร มันมีความรู้สึกที่ดี และทุกครั้งที่ได้ยินเกี่ยวกับอาร์เซนอล มันก็ยังเป็นแบบเดิมไม่เปลี่ยน ตอนนี้ผมย้ายมาแล้ว บางครั้งชะตาอาจจะลิขิตไว้ก็ได้”

 

เกาะติดวงการลูกหนังไทยและต่างประเทศ

Line @kickoff69 ได้ที่นี่

 

 

บ๊วยคาคอ ! ประกาศผลสอบ แข้ง แมนฯ ยูไนเต็ด เปิดบ้านพ่าย เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด

คะแนนนักเตะ แมนฯ ยูไนเต็ด

ดาบิด เดเคอา – 5/10
ลูกแรกออกมาตัดบอลพลาด ส่วนลูกที่ 2 ก็เคลียร์ไม่ขาดทำทีมเสียเปรียบ

แอรอน วาน-บิซซาก้า – 6/10
เล่นเกมบุกได้ดีมากขึ้นและสามารถประครองเกมรับฝั่งตัวเองเอาไว้ได้ตามมาตรฐาน

แฮร์รี แม็คไกวร์ – 6/10
แม้จะทำประตูตีเสมอได้แต่ฟอร์มการเล่นยังดูดร็อปลงไปมากทีเดียว อาจจะเป็นเพราะไม่ค่อยได้เข้าคู่กับ ตวนเซเบ้

แอ็กเซล ตวนเซเบ้ – 4/10
ดูรนตลอดทั้งเกมและมีส่วนทำให้ทีมเสียประตูทั้ง 2 ลูก

อเล็กซ์ เตลลิส – 6/10
เห็นได้ชัดว่าทำไมเขาไม่สามารถแย่งตำแหน่งมาจาก ชอว์ ได้ เพราะด้อยกว่าทั้งเกมรับและรุก ยังดีที่มีแอสซิสต์จากลูกเตะมุม

พอล ป็อกบา – 5/10
ได้ครองบอลค่อนข้างเยอะแต่ไม่ได้มีจังหวะจ่ายบอลสร้างโอกาสมากนัก

เนมานยา มาติช – 5/10
หลังเสียประตูแรกก็ดูจะหลุดฟอร์มไปเลย และความเชื่องช้าของเขาก็ทำให้กองกลางของทีมเยือนเล่นได้ง่ายขึ้นมาก

เมสัน กรีนวู้ด – 6/10
มีโอกาสจบสกอร์ได้บ้างในครึ่งแรกและดูจะเล่นดีที่สุดในแดนหน้าของทีม

บรูโน แฟร์นันดส์ – 6/10
จ่ายบอลเสียเยอะ แต่ก็ยังคงช่วยไล่บอลและตัดบอลดังเดิม

มาร์คัส แรชฟอร์ด – 5/10
วูบวามยามได้เล่นฝั่งซ้ายที่ถนัด แต่ดูจะหายไปเลยหลัง คาวานี ลงมาแล้วเขาต้องโยกไปขวาแทน

อองโตนี มาร์กซิยาล – 2/10
จ่ายบอลขาดๆเกินๆ เสียบอลแล้วไม่ช่วยไล่ ไม่พยายามวิ่งหาช่อง นี่เป็นอีกเกมที่เขาเล่นได้แย่ที่สุดในสนาม

ตัวสำรอง

เอดินสัน คาวานี – 6/10 น่าจะลงมาเร็วกว่านี้ เพราะลงมาแล้วทีมเล่นดีขึ้น (แทน กรีนวู้ด น.66)

ลุค ชอว์ – 5/10 พยายามเต็มที่แล้ว (แทน เตลลิส น.82)

ดอนนี ฟาน เดอ เบ็ค – 6/10 แทบไม่ได้สร้างอิมแพ็กกับเกม (แทน ตวนเซเบ้ น.83)

 

เกาะติดวงการลูกหนังไทยและต่างประเทศ

Line @kickoff69 ได้ที่นี่