ไล่ดู 5 เกมที่เชลซีเดินหน้าคว้าชัยชนะได้ล่าสุด ต้องยอมรับว่ามีหนักนัดเดียวแค่การบุกไปเฆี่ยนท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ 1-0
ที่เหลือล้วนเจอคู่แข่งที่ห่างชั้นกว่า ไม่ว่าชนะเบิร์นลี่ย์ , เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ดหรือนิวคาสเซิ่ล รวมถึงเกมเอฟเอคัพกับบาร์นสลี่ย์ด้วย
อีกทั้งเกมประเดิมเสมอวูล์ฟส์ก็น่าจะเป็นฝ่ายชนะมากกว่า ทั้งเรื่องศักยภาพผู้เล่นและได้เปรียบเล่นในบ้าน
ขณะเดียวกันสเปอร์สก็อยู่ในช่วงขาลง เกมดังกล่าวไม่มี แฮร์รี่ เคน กองหน้าตัวหลักที่บาดเจ็บอีกด้วย
พูดให้ง่ายเข้าไว้ก็คงประมาณว่า ทูเคิ่ล ยังไม่เจอกับแบบทดสอบของจริง ที่ผ่านมาเหมือนออร์เดิร์ฟเรียกน้ำย่อยมากกว่า
สิ่งที่ต้องตามดูกันก็คือเขาจะทำให้ทีมสปิริตและบรรยากาศในห้องแต่งตัวดีกว่าที่เคยหรือไม่ ตอนนี้หลายอย่างอาจดูดีไม่มีอะไรน่าวิตก แต่แรงกระเพื่อมต่างๆจะตามมาอย่างแน่นอน
นักเตะหลายคนที่ต้องตกเป็นสำรอง ย่อมไม่พอใจกับสถานะของตัวเอง ไม่ว่าจะเป็น เบน ชิเวลล์ , ฮาคิม ซีเย็ค , รีซ เจมส์ หรือ เคิร์ต ซูม่า แล้วคงมีปฏิกิริยาตอบโต้บางอย่าง
อีกทั้งปูมหลังของ ทูเคิ่ล สมัยกุมบังเหียนปารีส แซงต์ แชร์กแมงก็เจอวิจารณ์ว่าคุมพวกแข้งซูเปอร์สตาร์ให้อยู่ในแถวไม่ได้ สุดท้ายบอร์ดก็ต้องไปดึง เลโอนาร์โด้ มาช่วยจัดการ
ว่ากันว่าจากนี้ ทูเคิ่ล จะเจอแบบทดสอบของจริง เชลซีจะไปเยือนเซาธ์แฮมป์ตันเกมลีก ตามด้วยบุกแอตเลติโก้ มาดริดศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก หลังจากนั้นกลับมาเล่นในรัง 2 เกมลีกรับแมนฯยูไนเต็ดและเอฟเวอร์ตัน ถัดมาบุกถิ่นลีดส์ ยูไนเต็ด ก่อนจะกลับมาโม่ตราหมีในเลกสอง
บางทีช่วงเวลาฮันนีมูนของ ทูเคิ่ล อาจไม่ได้ยาวนานอย่างที่คาดหวังกันไว้ก็ได้
เกาะติดวงการลูกหนังไทยและต่างประเทศ
Line @kickoff69 ได้ที่นี่
